วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บทที่ 6 ถึงมาลิและกลับ

บทที่ 6
ถึงมาลิและกลับ
           
            เมื่อผมได้มาถึงวันต่อมา ลุงของผมพูดว่า อาห์เหม็ด ก่อนหน้านี้หลานอยากเป็นนักเดินใช่ไหม แล้วตอนนี้หลานยังอยากเป็นนักเดินทางอยู่ไหม
            ครับ ผมได้ตอบไป มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมรู้ แต่ผมอยากเดินทางอย่างแท้จริง
            ดีมาก เขาพูด ดังนั้น หลานจงตั้งใจฟังให้ดีๆล่ะ เพราะว่าจะได้เรียนรู้มากขึ้น
            สำหรับการเดินทางครั้งสุดท้ายนี้ ลุงได้เดินทางลงใต้เพราะลุงต้องการไปเยี่ยม มาลิ หลานจะเห็นว่าปีก่อนในไคโร ลุงได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับกษัตริย์แห่งมาลิผู้มีชื่อเสียง แมนซ่า สุไลมาน และทองคำของเขา

บทที่ 5 ถึงแทนเจียร์และกรานาดา

บทที่ 5
ถึงแทนเจียร์และกรานาดา

            ถ้าอย่างนั้น เมืองเหล่านั้นมีปัญหาอะไรล่ะ เมื่อลุงกลับไปเยือนอีกครั้ง ผมถามลุงของผมเมื่อผมมาถึงในวันถัดมา
            เรามาคุยกันเรื่องการเดินทางครั้งของลุงที่จีนกันเถอะลุงตอบด้วยเสียงแผ่วเบา

บทที่ 4 จากมัลดีฟไปยังจีน

บทที่ 4
จากมัลดีฟไปยังจีน

            ลุงของผมไม่ได้เปิดประตูทันทีในวันต่อมา ดังนั้นผมจึงรอที่ถนนและได้คิดเกี่ยวกับเรื่องสุลต่านแห่งเมืองเดลี ภายในหัวของผม ผมนึกถึงพลังอำนาจและสีหน้าโกรธของท่านเมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับเรือทั้งสามลำนั้น

บทที่ 3 จากชากาเตย์ไปยังแคลิคัต

บทที่ 3
จากชากาเตย์ไปยังแคลิคัต

            เมื่อผมกลับมาในบ่ายของวันถัดมา ลุงของผมมีความสุขมากที่ได้พบกับผม
            อาห์ อาห์เหม็ด หลานกลับมาอีกแล้วดีมากเลย เขายิ้ม และเขาได้เริ่มเล่าเรื่องของเขาอีกเรื่องหนึ่ง

บทที่ 2 จากมักกะห์ไปยังชากาเตย์

บทที่ 2
จากมักกะห์ไปยังชากาเตย์

            ผมได้มาถึงบ้านของลุงตั้งแต่เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น
            อย่างนั้น การเดินทางในทะเลครั้งแรกของลุงคือที่ไหนครับลุง ผมถาม
            ฟัง และฟังนะหลาน ลุงพูด จากนั้นเขาก็ได้เล่าเรื่องต่อจากครั้งที่แล้วว่า

บทที่ 1 เริ่มต้นการเดินทาง

บทที่ 1
เริ่มต้นการเดินทาง

            ครั้งนั้นลุงของผมนามว่า อิบนู บัตตูตาได้นั่งอยู่ที่ริมหน้าต่างในบ้านของเขาที่อยู่ในเมืองแทนเจียร์ มันเป็นช่วงที่ร้อนจัดของวันนั้นและดวงตาของเขาเปิดแค่ครึ่งหนึ่ง แล้วผมก็ได้เข้าไปในห้องนั้น

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Adverb Clause (Adverb of time)


Adverb Clause (Adverb of time)

            ในภาษาอังกฤษนั้นประโยคแต่ละประโยคจะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของประโยค ทั้งประโยคใจความเดียว ประโยคใจความรวม และประโยคใจความซ้อน ซึ่งประโยคในประเภทนี้จะประกอบไปด้วยอนุประโยค หรือ Clauses ที่หมายถึงกลุ่มคำที่ประกอบไปด้วยประธานและกริยา ซึ่งเกิดขึ้นตามลำพังไม่ได้ และจะไม่สื่อความหมายที่สมบูรณ์ โดยในแต่ละ clause นั้นจะประกอบไปด้วยอนุประโยค 2 แบบ ได้แก่ Independent clause เป็นอนุประโยคที่อิสระ มีความหมายและความสมบูรณ์ในตัวมันเองซึ่งนั่นก็คือเป็นอนุประโยคหลัก หรือ Main clause นั่นเองและ Dependent clause เป็นอนุประโยคที่ไม่อิสระ ไม่มีความหมายและความสมบูรณ์ในตัวมันเอง มักจะนำหน้าด้วยคำเชื่อมหรือ Conjunction ที่เรียกว่า Subordinating Conjunction  ซึ่งClauses แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ Noun Clause หรือ นามานุประโยค เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่เหมือนกับคำนามในประโยค Adjective Clause คุณานุประโยค เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่เหมือนกับคำคุณศัพท์ นั่นคือขยายนามหรือสรรพนามในประโยคนั่นเอง และ Adverb Clause วิเศษณานุประโยค เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่เหมือนกับคำกริยาวิเศษณ์ในประโยค นั่นก็คือ ใช้ขยายกริยา ขยายคุณศัพท์ และขยายกริยาวิเศษณ์ด้วยกันเอง ซึ่งในครั้งนี้จะเรียนรู้เรื่อง Adverb Clause แต่เป็นประเภท Adverb Clause of time

การฝึกทักษะการอ่านจากเว็บ British Council

20/10/15
การฝึกทักษะการอ่านจากเว็บ British Council

            ปัจจุบันทักษะทางด้านภาษายังเป็นสิ่งจำเป็นที่เราจะต้องมีอยู่ในทุกวันนี้ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาสากล เป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วโลก และในปัจจุบันเป็นยุคของโลกแห่งอินเตอร์เน็ตซึ่งมีการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารมากที่สุด ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ หากเราต้องการที่จะฝึกทักษะทางภาษา ไม่ว่าจะเป็นด้านฟัง พูด อ่าน หรือเขียน ในการฝึกทักษะแต่ละทักษะนั้น เราสามารถหาวิธีการฝึกได้หลายช่องทาง เพราะยุคนี้เป็นยุคแห่งเทคโนโลยี มีการติดต่อสื่อสารด้วยเครือข่ายที่ไร้พรมแดน มีเว็บไซต์ต่างๆนาๆสำหรับให้เราฝึกทักษะทางด้านภาษาโดยเฉพาะทักษะการอ่าน ในโลกอินเตอร์เน็ตนั้น มีบทความมากมายให้เราได้เลือกอ่าน แต่ในครั้งนี้ข้าพเจ้าสนใจการฝึกทักษะการอ่านจากเว็บไซต์หนึ่งที่มีชื่อว่า British Council

อบรมเชิงปฏิบัติการ วันที่ 30 ตุลาคม 2558 (ช่วงบ่าย)

30/10/15
อบรมเชิงปฏิบัติการ
 เรื่อง เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ
วันที่ 30 ตุลาคม 2558 (ช่วงบ่าย)

            หลังจากที่ฟังการบรรยายถึงเทคนิควิธีการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และการสอนในภาษาศตวรรษที่ 21 ที่ครูจะต้องเตรียมพร้อมทั้งด้านความรู้ทั่วไป และความรู้ทางด้านไวยากรณ์เพื่อที่ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และถ่ายทอดความรู้ในสาขาอื่นโดยใช้ภาษาอังกฤษได้ แต่ในช่วงบ่ายนี้จะเป็นการสอนเทคนิควิธีการสอนโดยใช้เกม ซึ่งประกอบไปด้วย เกม Tic Tac Toeเกมส่งบอลเล่านิทานและอธิบายภาพ และเกมแปะมือ

อบรมเชิงปฏิบัติการ วันที่ 30 ตุลาคม 2558 (ช่วงเช้า)

30/10/15
อบรมเชิงปฏิบัติการ
 เรื่อง เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ
วันที่ 30 ตุลาคม 2558 (ช่วงเช้า)

            หลังจากที่ได้ฟังการบรรยายเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการบรรยายเกี่ยวกับการเรียนการสอนที่ให้ผู้เรียนมีทักษะ 7C การเตรียมความพร้อมของผู้เรียนในการใช้ภาษาอังกฤษ เทคนิควิธีการสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และการออกเสียง โดย ผศ.ดร. ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ในวันนี้เป็นการบรรยายต่อจากเมื่อวาน ซึ่งเนื้อหาในการบรรยายเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 ที่เรียกว่า Filpped Classroom

อบรมเชิงปฏิบัติการ วันที่ 29 ตุลาคม 2558 (ช่วงบ่าย)

29/10/15
อบรมเชิงปฏิบัติการ 
เรื่อง เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ
วันที่ 29 ตุลาคม 2558 (ช่วงบ่าย)

            หลังจากที่ได้อบรมในช่วงเช้า ซึ่งเป็นการสัมมนาเรื่องการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในปัจจุบันที่ต้องให้ผู้เรียนมีมากกว่าทักษะทางด้านภาษา ของอาจารย์ 3 ท่านและการบรรยายถึงการความสำคัญของภาษาและการใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดย ผศ.ดร. ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ระหว่างในการอบรมช่วงบ่ายนี้ จะเป็นการบรรยายต่อของผศ.ดร. ศิตา ที่ว่าด้วยการสอนคำศัพท์ และ การออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ

อบรมเชิงปฏิบัติการ วันที่ 29 ตุลาคม 2558 (ช่วงเช้า)

29/10/15
อบรมเชิงปฏิบัติการ 
เรื่อง เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ
วันที่ 29 ตุลาคม 2558 (ช่วงเช้า)

            ในการอบรมวันนี้ เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการที่ได้จัดขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชและ สมาคมครูผู้สอนภาษาอังกฤษแห่งประเทศไทย (TESOL) โดยผู้เข้าร่วมการอบรมครั้งนี้จะเป็นครูผู้สอนภาษาอังกฤษในภาคใต้ และนักศึกษาคณะครุศาสตร์ หลักสูตรภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 3 ซึ่งการจัดอบรมครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อมุ่งพัฒนาครูและนักศึกษาให้มีแนวคิดใหม่ๆในการนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ประกอบอาชีพ และศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ ในการอบรมครั้งนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ ซึ่งในการสอนปัจจุบันนั้นจะต้องรวมทั้งทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน พร้อมกัน ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้ด้วยตนเองมากขึ้น เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในการอบรมช่วงเช้านี้จะมีการสัมมนาเรื่อง Beyond Language Learning และการบรรยายเกี่ยวกับเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ

การฝึกทักษะการเขียนจากการเรียงคำในประโยค

13/10/15
การฝึกทักษะการเขียนจากการเรียงคำในประโยค

            ในปัจจุบันจะพบว่า คนไทยยังมีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันค่อนข้างน้อยหรือไม่ได้ใช้เลย ส่งผลให้ไม่ค่อยเห็นความจำเป็นหรือประโยชน์ของภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และยังไม่คิดจะพัฒนาทักษะทางด้านการฟัง พูด อ่าน และการเขียนภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง ทั้งที่จริงแล้วในอีกไม่นานข้างหน้านี้เราก็จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเราจึงต้องเห็นความสำคัญในการใช้ภาษาและเร่งฝึกพัฒนาทักษะ ในการฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษ นอกจากฝึกการฟัง การพูด และการอ่านแล้ว ทักษะการเขียนนับว่าเป็นทักษะหนึ่งที่ยากเพราะการเขียนที่ดีนั้นจะต้องอาศัยจิตนาการและใช้สำนวนภาษาที่ดี และถูกต้องตามไวยากรณ์ ในปัจจุบันตนมีปัญหาในการเขียนภาษาอังกฤษ คือ ยังมีความรู้ทางไวยากรณ์ที่เป็นพื้นฐานของการเขียนที่ดีไม่เพียงพอ ดังนั้นในครั้งนี้จึงฝึกทักษะการเขียนแต่เป็นการเรียนรู้โดยการเริ่มจากการเรียงคำศัพท์ให้ถูกโครงสร้างจากเว็บไซต์ต่างๆได้

ฝึกทักษะการฟัง จากเรื่อง Columbus Day


ฝึกทักษะการฟัง จากเรื่อง Columbus Day

            การที่เราจะฝึกทักษะในภาษาอังกฤษนั้นจำเป็นจะต้องฝึกอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทักษะการฟัง พูด อ่าน หรือเขียน ซึ่งกว่าจะทำให้ดีได้ล้วนต้องผ่านการฝึกฝนมาก่อน แน่นอนว่าผู้ที่กำลังฝึกภาษาต่างพยายามค้นหาวิธีต่างๆเพื่อพัฒนาตนเอง แต่นับว่าโชคดีที่ในปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปมาก ส่งผลให้เราสามารถฝึกพัฒนาทักษะได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เครือข่ายไร้พรมแดน ผู้ฝึกภาษาจะได้ฝึกทั้งทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน และไวยากรณ์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะเรื่องทักษะการฟัง เราสามารถหาแหล่งฝึกฝนได้มากมายไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงภาษาอังกฤษ ฟังวิทยุภาษาอังกฤษ หรือดูหนัง soundtrack ให้มากๆตามคำแนะนำของใครหลายๆคน เราสามารถเลือกได้เพียงพิมพ์ค้นหาเพลงที่เราต้องการ แต่ในครั้งนี้จะเป็นการฝึกทักษะการฟัง เรื่อง Columbus Day: Some Love It, Others Not So Much จากเว็บไซต์ VOA ซึ่งย่อมาจาก Voice of America

การฝึกจำคำศัพท์จาก เกม hang man

29/09/15
การฝึกจำคำศัพท์จาก เกม hang man

            ในการฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษ ล้วนมีวิธีการที่หลากหลายที่จะฝึกเพื่อพัฒนาทักษะความสามารถของเราเอง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีความสะดวกสบายมากขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆทำให้นักเรียนหรือผู้ที่ต้องการศึกษาทางด้านภาษาอังกฤษสามารถค้นหาความรู้และฝึกตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา และมีแหล่งข้อมูลและสื่อที่หลากหลาย อย่างเช่น เว็บไซต์ วิดีโอคอล วิดีโอ แชท ยูทูป เป็นต้น ซึ่งสื่อเหล่านี้สามารถพัฒนาทักษะทางด้านภาษาอังกฤษได้ โดยเฉพาะคำศัพท์ซึ่งมีความสำคัญต่อทักษะทั้ง 4 ทักษะอันได้แก่ ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งหากเรามีพื้นความรู้ด้านคำศัพท์มาก ก็ส่งผลทำให้เราใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นข้าพเจ้าจึงมีความสนใจที่จะฝึกจำคำศัพท์ เนื่องจากครั้งที่แล้วข้าพเจ้าได้วัดระดับความรู้คำศัพท์และฝึกจากเว็บไซต์ vocabularysize.com (http://my.vocabularysize.com/) และพบว่าตนมีพื้นความรู้ด้านคำศัพท์น้อย จึงแสวงหาวิธีฝึกจำคำศัพท์ โดยค้นหาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ จนไปเจอกับเว็บเพจใน Facebook ชื่อ “E-academy” โพสถึงเทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ซึ่งมีหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นอ่านบทความ ใช้พจนานุกรมภาษาอังกฤษให้บ่อยๆ หรือ ฝึกท่องกับเพื่อน แต่มีอยู่วิธีหนึ่งที่ข้าพเจ้าสนใจคือการฝึกท่องคำศัพท์จากเกมเกี่ยวกับคำศัพท์ ซึ่งเกมที่ข้าพเจ้าเลือกคือเกม  Hang man

์Noun Clause

6/10/15
Noun Clauses

            Complex Sentence เป็นประโยคความซ้อนซึ่งประกอบด้วยประโยคย่อย 2 ประโยคขึ้นไป คือ ประโยคใจความหลัก (main clause) ซึ่งเป็นประโยคย่อยอิสระ (independent clause) ซึ่งอยู่ตามลำพังได้ และประโยคใจความรอง (subordinate clause) ซึ่งเป็นประโยคย่อยไม่อิสระ (dependent clause) ซึ่งต้องพึ่งพา main clause โดย subordinate clause ที่เป็นประโยคย่อยที่ขั้นต้นด้วยคำที่ใช้เชื่อมกับ main clause แบ่งออกเป็น 3 ประเภทได้แก่ noun clause adjective clause และ adverb clause ซึ่งในครั้งนี้จะอธิบายเรื่อง noun clause ซึ่งหมายถึง อนุประโยคที่ทำหน้าที่เสมือนคำนามในประโยค โดยมีคำนำหน้าเพื่อเชื่อมกับ main clause ซึ่งคำที่ใช้นำหน้าดังกล่าว แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มย่อยคือ that wh – words และ If/whether (…or not)

การฝึกคำศัพท์จาก เว็บ vocabularysize.com

22/09/15
การฝึกคำศัพท์จาก เว็บ vocabularysize.com

            ทักษะการอ่าน เป็นทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่ง เป็นทักษะที่ใช้เพื่อจับใจความในเนื้อหาที่ได้อ่าน ซึ่งการที่ผู้อ่านจะเข้าใจเนื้อหาที่เจ้าของภาษาเขียนหรือพิมพ์ภาษาอังกฤษได้นั้น อย่างน้อยจะต้องมีความรู้ด้านคำศัพท์ในระดับหนึ่ง งานวิจัยของ Laufer (1989 อ้างถึงใน Hu และ Kelly, 2004) พบว่า ผู้อ่านควรมีพื้นความรู้ด้านคำศัพท์อย่างน้อย 5,000 คำ จึงสามารถอ่านบทความภาษาอังกฤษทั่วไปได้เข้าใจ และพบว่าหากผู้อ่านไม่รู้คำศัพท์อย่างน้อย 1 คำในประโยคนั้น ก็ส่งผลให้การแปลติดขัดและอาจเข้าใจความหมายไม่ครบถ้วนหรือผิดแปลกไป ทำให้ไม่เข้าใจบทความนั้นทั้งเรื่องได้ เนื่องจากมีพื้นความรู้เรื่องคำศัพท์น้อยเกินไปทำให้ไม่สามารถเดาคำศัพท์จากบริบทได้เมื่ออ่านบทความ ดังนั้นจึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรู้คำศัพท์ว่าเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จะทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษ และต้องแสวงหาวิธีฝึกเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเอง โดยอาจารย์ได้แนะนำเว็บไซต์หนึ่งที่มีชื่อว่า vocabularysize.com เพื่อให้เข้าไปวัดศักยภาพด้านศัพท์ตนเอง และฝึกคำศัพท์จากแบบฝึกหัดที่มีในเว็บไซต์นั้น

If – Clause

22/09/15
If – Clause

            Adverbial Clause หมายถึงอนุประโยคที่ทำหน้าที่เหมือนกับคำกริยาวิเศษณ์ อาจอยู่ในตำแหน่งหน้าประโยคหรือหลังประโยคก็ได้ ประโยคเหล่านี้อาจแบ่งตามหน้าที่ว่า ระบุเวลา เหตุผล สถานที่ เงื่อนไข และลักษณะหรือวิธีการ ซึ่ง If – Clause ก็เป็นส่วนหนึ่งของ Adverbial Clause มีอีกชื่อหนึ่งว่า Conditional Sentence ซึ่งหมายถึงประโยคเงื่อนไข ใช้เพื่อต้องการบอกกล่าวถึงข้อเท็จจริง เพื่อแสดงเงื่อนไขว่า ถ้ามีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ก็จะมีอีกเหตุการณ์หนึ่งตามมา หรือเป็นการสมมุติในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งในประโยคประกอบด้วยอนุประโยค 2 ประโยครวมกัน และเชื่อมด้วย conjunction “if” ซึ่งประโยคที่นำหน้าด้วย if เป็น dependent clause เป็นอนุประโยคแสดงเงื่อนไขเรียกว่า if-clause และประโยคที่แสดงผลเงื่อนไขนั้นเป็น independent clause เรียกว่า main clause ซึ่ง If – Clause จะแบ่งได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆ ได้แก่  Real Conditionals และ Unreal Conditionals แต่ส่วนใหญ่จะแบ่งได้เป็น 3 แบบ ได้แก่ TYPE ONE TYPE TWO และ TYPE THREE นอกจากนี้ยังมีการละ IF และคำที่สามารถแทน If ได้อีกด้วย

ฝึกการออกเสียงให้ถูกต้องกับ เว็บ voki

ฝึกการออกเสียงให้ถูกต้องกับ เว็บ voki

            ทักษะการฝึกภาษามีทั้งหมด 4 ทักษะ คือทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งทักษะที่คู่กันคือ ทักษะการอ่านและการเขียน ถ้าอ่านมากก็จะมีโอกาสเขียนได้มาก ทักษะการฟังก็จะคู่กับทักษะการพูด ถ้าฟังมากก็จะมีโอกาสพูดได้มาก หลายครั้งที่คนไทยประสบปัญหาในการสื่อสารกับชาวต่างชาติเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราจะสื่อออกไปทั้งๆที่หลายคนก็มีความรู้ในด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษในระดับดี แต่เมื่อสนทนากับเจ้าของภาษาต้องพูดไปซ้ำไปซ้ำมาจนทำให้ขาดความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสาร จากสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เห็นว่าการออกเสียงคำให้ถูกต้องและลงน้ำหนักที่พยางค์ให้ถูกที่เป็นสิ่งควรให้ความสนใจ เพราะการที่ผู้พูดออกเสียงได้ถูกต้องจะทำให้การส่งสารมีความถูกต้องและเข้าใจตรงกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งเปรียบเทียบได้เหมือนกับชาวต่างชาติที่พูดภาษาไทยบางคนพูดไม่ได้มีความไพเราะอะไรมากแต่มีการออกเสียงของคำแต่ละคำได้อย่างถูกต้องและชัดเจนและลงน้ำหนักของคำได้ดี ทำให้เราเข้าใจที่เขาสื่อสารรู้เรื่อง ดังนั้นอาทิตย์นี้จะเป็นการฝึกการออกเสียงให้เหมือนกับเจ้าของภาษาโดยใช้เว็บไซต์ www.voki.com ซึ่งจะมาทำความรู้จักถึงหน้าตาของเว็บ วิธีการฝึก และผลของการฝึกในสัปดาห์นี้

การฝึกทักษะจากวิดีโอ Phrasal verb

การฝึกทักษะจากวิดีโอ Phrasal verb

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ครูที่ดีในยุคอาเซียน

ครูที่ดีในยุคอาเซียน

            เนื่องจากโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา  ส่งผลให้ทั่วโลกต้องเผชิญกับความหลากหลายทั้งด้านสังคมและระบบเศรษฐกิจซึ่งมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตเป็นอย่างมาก ส่งผลให้หลายประเทศต้องเร่งเตรียมพร้อมโดยการสร้างกลไกและพัฒนาคนให้มีศักยภาพสูงขึ้น เพื่อให้สามารถปรับตัวและรู้เท่าทันกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น  เพื่อให้ประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและเท่าเทียม ซึ่งในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการรวมกลุ่มประเทศที่เรียกว่า “กลุ่มประชาคมอาเซียน” โดยมีสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ อันได้แก่ มาเลเซีย เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา อินโดนิเซีย สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และไทย ซึ่งการร่วมมือของทั้ง 10 ประเทศนี้มุ่งหวังให้มีความเจริญก้าวหน้าในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศ ซึ่งการศึกษาก็เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญขับเคลื่อนให้ก้าวไปอย่างอย่างแข็งแกร่ง และมั่นคงได้

การฝึกทักษะจากการอ่าน passage

การฝึกทักษะจากการอ่าน passage

            ภาษาเป็นเครื่องมือที่ใช้สื่อสาร รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้และใช้ในการสื่อความหมายและเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งในปัจจุบันภาษาอังกฤษก็มีบทบาทมากขึ้นอย่างกว้างขวางในติดต่อสังคมโลก เมื่อเราเข้าไปใช้อินเทอร์เน็ตจะพบว่าส่วนใหญ่เว็บเพจจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เพราะภาษาอังกฤษนั้นเป็นภาษาสากลและนิยมใช้กันทั่วโลก และนอกจากนี้ยังเป็นกุญแจสำคัญในการติดต่อสื่อสารและการค้นคว้าหาความรู้ ดังนั้นการเข้าใจภาษาอังกฤษจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง อย่างที่ทราบกันว่าในการฝึกทักษะทางภาษา จะประกอบไปด้วย 4 ทักษะ นั่นคือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ในการฝึกครั้งนี้จะเป็นการฝึกการอ่าน เนื่องจากทักษะการอ่านเป็นเครื่องมือสำคัญในการแสวงหาความรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการศึกษา การเจรจาต่อรอง และเพื่อการแข่งขันทางการประกอบอาชีพ จะเห็นได้ว่าทักษะการอ่านนั้นเป็นทักษะที่สำคัญในทุกระดับ เนื่องจากเมื่อค้นหาความรู้ในสาขาวิชาต่างๆ ต่างก็ต้องใช้ทักษะการอ่านเพื่อเป็นสื่อการเรียนรู้ และทำความเข้าใจ ดังนั้นเมื่ออ่านสื่อต่างๆที่เป็นภาษาอังกฤษแล้ว พบว่าตนยังไม่ค่อยมีความเข้าใจในเนื้อเรื่องเท่าไหร่นัก จึงตระหนักได้ว่าตนจำเป็นต้องฝึกทักษะด้านนี้ด้วย ซึ่งในสัปดาห์นี้จะเป็นการฝึกการอ่าน จาก passage ซึ่งเราจะได้ทราบเทคนิควิธีการฝึก เนื้อหา และสิ่งที่ได้รับจากการฝึกอ่านครั้งนี้

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Adjective Clause

Adjective Clause

            Adjective Clause ทำหน้าที่ขยายคำนามหรือสรรพนามที่มาข้างหน้า โดยอาจใช้ชี้เฉพาะคำนามที่มาข้างหน้า โดยอาจใช้ชี้เฉพาะคำนามที่มาข้างหน้า หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนามที่มาข้างหน้า

การฝึกทักษะจากหนังเรื่อง Frozen

การฝึกทักษะจากเรื่อง Frozen

            ในชีวิตประจำวันของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าสังเกตได้ว่าภาษาอังกฤษนั้นอยู่รอบตัวเรานั้นเอง ไม่ว่าเราจะทำอะไรหรือไปที่แห่งใดเราก็มักจะเห็นอยู่เสมอและมีบทบาทเข้ามามากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะข้าพเจ้าซึ่งจะไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในอนาคต แน่นอนว่าทุกคนย่อมคาดหวังว่าครูภาษาอังกฤษจะต้องมีความรู้ดีเยี่ยมทั้งด้านไวยากรณ์ทางภาษา และมีทักษะภาษาทั้งการฟังพูด อ่าน และเขียนที่ดีเลิศ แต่เมื่อย้อนกลับมาประเมินตนเองแล้ว พบว่าตนเองยังด้อยในทักษะเหล่านี้มาก ดังนั้นจึงต้องพัฒนาตนเองโดยการค้นหาวิธีการต่างๆเพื่อฝึกทักษะภาษาให้กับตนเอง โดยในสัปดาห์นี้ข้าพเจ้าเริ่มต้นที่จะพัฒนาตนเองในด้านทักษะการพูดและการฟัง ผ่านการดูภาพยนตร์เรื่อง Frozen ซึ่งมีเรื่องย่อ เทคนิคการฝึก และสิ่งที่น่าสนใจในเรื่องนี้มากมาย

คุณธรรมกับครู

คุณธรรมกับครู

            สังคมไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมากมายในทุกด้าน ซึ่งก่อให้เกิดเปลี่ยนแปลงในการดำรงชีวิตอยู่ทั่วไป วิถีชีวิตคนไทยในปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปมากทั้งในด้านที่ดีและไม่ดี ตัวอย่างเช่นประเทศมีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดการพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมมากมาย แต่ในขณะเดียวกันมีหลายสิ่งหลายอย่างในสังคมไทยที่มีสภาพอ่อนแอลง ไม่ว่าจะเป็นความแตกแยกขัดแย้งในสังคมจนเกิดเป็นความรุนแรง การใช้อาวุธ การเสพสารเสพติด ครอบครัวแตกแยก การทำร้ายร่างกาย โดยเฉพาะการทุจริต คอรัปชั่น รวมถึงการโกงการเอาเปรียบในรูปแบบต่างๆ ได้เกิดขึ้นมากมายและต่อเนื่อง ขยายตัว ขยายวง ขยายรูปแบบและวิธีการมากขึ้นจนน่ากลัว คนในสังคมมุ่งให้ความสำคัญทางด้านวัตถุมากกว่าการทำความดี และมีจิตสาธารณะ ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้ทำให้เห็นได้ว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุค “วิกฤตทางคุณธรรมความดี” ทำให้พลเมืองด้อยประสิทธิภาพ แม้เราไม่สามารถขจัดสิ่งเหล่านั้นไปได้ แต่สามารถยับยั้งการเกิดได้ นั่นคือการพัฒนาเยาวชนอันเป็นความหวังของชาติ โดยมีครูและสถานศึกษาเป็นหนึ่งตัวขับเคลื่อนสำคัญในการจะผลิตให้เด็กเป็นคนดี มีคุณธรรม และพลเมืองดีของสังคม ซึ่งครูจะต้องรู้สาเหตุของความอ่อนแอของสังคม รู้ถึงการปลูกฝังคุณธรรมที่ต้องมีในตัวผู้เรียน และรู้แนวทางการพัฒนาค่านิยมที่ดีและคุณธรรมในเยาวชน

การฝึกทักษะจากเพลง The Day You Went Away

การฝึกทักษะจากเพลง The Day You Went Away

            การฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน เพราะทำให้ผู้เรียนนั้นมีศักยภาพในการใช้ภาษามากยิ่งขึ้น เข้าใจภาษาอังกฤษได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น ซึ่งการฝึกทักษะที่ผู้เรียนต้องหมั่นฝึกฝนประกอบด้วย 4 ทักษะที่สำคัญซึ่งได้แก่ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งก่อนอื่นจะต้องมีการรู้ระดับกรใช้ภาษาของตนก่อน และเมื่อประเมินแล้วพบว่าตนยังอ่อนด้อยทั้ง 4 ทักษะ จึงต้องฝึกฝนพัฒนาตนเองอยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสัปดาห์นี้จะเป็นการฝึกทักษะการฟัง เพราะการฟังเป็นการฝึกทักษะที่มีการรับรู้ เรียนรู้ หรือนำข้อมูลเข้าใส่ตัว (Input) ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะแค่ 1 นาที 5 นาที หรือเป็นชั่วโมงก็ตามซึ่งในยุคปัจจุบันมีช่องทางให้ได้ฝึกอย่างหลากหลาย ดังนั้นจึงเลือกฝึกทักษะการฟังผ่านการฟังเพลง The Day You Went Away ซึ่งมีทั้งเนื้อหาของเพลง ขั้นตอนการฝึกและสิ่งที่ได้จากเพลง

Tenses

Tenses

            คำว่า กาล ในพจนานุกรมมีความหมายว่า เวลา ยุค หรือสมัย เมื่อพูดหรือเขียนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะเห็นได้ว่ามักจะมีเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อบอกให้ทราบว่าเหตุการณ์ที่พูดถึง หรือการกระทำอยู่นั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เมื่อกล่าวถึง การพูด การเขียน รวมถึงการแปลภาษา ระหว่างภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พบว่าทั้งสองภาษา นั้นมีความแตกต่างกัน ทางด้านโครงสร้างของประโยค และเรื่องของเวลา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุปสรรคต่อการพูด การเขียนและการแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย หรือแม้แต่การตีความจากภาษาไทยกลับสู่ภาษาอังกฤษโดยเฉพาะเรื่องของเวลาและกาล เพราะในโครงสร้างประโยคของภาษาไทย จะปรากฏเวลาไม่ค่อยชัดเจน และบ่อยครั้งที่ใช้คำขยายหรือสถานการณ์ประกอบทำให้เข้าใจว่า ผู้พูดหรือผู้เขียนกระทำสิ่งใดอยู่ ซึ่งเมื่อนำประโยคภาษาอังกฤษมาแปลแล้ว อาจจะมีความหมายที่คล้ายคลึงกัน แม้โครงสร้างประโยคจริงๆจะใช้เวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งต่างจากโครงสร้างในประโยคภาษาอังกฤษ ที่บอกเวลาของการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงและเห็นได้ชัดโดยใช้ Tenses เป็นตัวบอก ระบุเวลาของเหตุการณ์ ซึ่งผู้เขียนหรือผู้พูดจะต้องทราบถึงความหมาย รูปแบบชื่อ โครงสร้างหลัก และหลักการใช้ของแต่ละ Tenses เพื่อที่สามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

กลยุทธ์ในการเรียนภาษา

กลยุทธ์ในการเรียนภาษา

            การเรียนภาษาอังกฤษเป็นการศึกษาภาษาต่างประเทศทั้งในด้านความรู้ และทักษะฟังพูด อ่านเขียน และแปล เพื่อที่จะสื่อสารกับชาวต่างชาติได้ และภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากล สามารถใช้สื่อสารกับผู้คนได้ทั่วโลก ซึ่งในยุคปัจจุบันการศึกษาภาษาอังกฤษไม่ได้มีเฉพาะแค่ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ผู้เรียนสามารถเลือกแนวทางการศึกษาได้มากมายหลากหลายแหล่งการเรียนรู้ เพื่อหาความรู้ และฝึกทักษะภาษา ตัวอย่างเช่น การศึกษาด้วยตนเองจากรายการโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ หรือทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีวิธีการฝึกทักษะทางภาษามากมาย แต่ก็ยังพบว่าคนส่วนใหญ่ ยังไม่มีความสามารถในการฟังพูด อ่าน เขียน และแปลได้เท่าที่ควร ซึ่งคนเหล่านั้นก็โทษสิ่งต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครูผู้สอนขาดความชำนาญ แบบเรียนและสื่อการสอนบกพร่อง การจัดการเวลาในการเรียนภาษาน้อยเกินไป สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการศึกษา ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเรียนภาษาคือ ตัวผู้เรียนนั่นเอง โดยผู้เรียนจะต้องมองหาข้อดี และพัฒนากลวิธีในการเรียนภาษาด้วยตนเอง ซึ่งประกอบไปด้วย การกำหนดเป้าหมาย หาแหล่งความรู้ พัฒนากลยุทธ์การเรียน และการลงมือปฏิบัติ

การเรียนรู้ทักษะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ดี

การเรียนรู้ทักษะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ดี

            การเรียนรู้เป็นการได้รับความรู้ พฤติกรรม ทักษะที่เป็นสิ่งแปลกใหม่หรือปรับปรุงในสิ่งที่มีอยู่ โดยการเรียนรู้ของคนเรานั้นอาจเกิดขึ้นจากส่วนหนึ่งของการศึกษา พัฒนาตนและการฝึกฝน ซึ่งมีการยึดเป้าหมายและแรงจูงใจในสิ่งนั้นเป็นตัวช่วย การเรียนรู้นั้นอาจส่งผลให้คนๆนั้นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ชั่วคราวหรือถาวร เช่นเดียวกับการเรียนรู้ทักษะทางภาษา ผู้เรียนจะต้องมีความพยายามอย่างมากในการพัฒนาตนเอง ศึกษาความรู้จากในห้องเรียนและนอกห้องเรียน เริ่มเรียนรู้ไปเรื่อยๆตามระดับขั้นบันไดโดยทำแนวทางและวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งการเรียนรู้ทักษะทางภาษาอังกฤษที่ดีนั้นผู้เรียนสามารถทำได้ และเมื่อผู้เรียนเกิดการเรียนรู้สามารถสังเกตได้จากการทำชิ้นงาน หรือการบันทึกการเรียนรู้ดี และการเลือกวิธีการฝึกทักษะภาษาเพื่อพัฒนาตนอันนำไปสู่ การเป็นผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น

กาล (tense)

กาล (tense)

            ประโยคในภาษาอังกฤษได้ให้ความสำคัญกับเวลาจึงเห็นได้ว่าในประโยคจะมีคำกริยาที่ทำให้ ทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ในอดีต ปัจจุบัน หรือในอนาคตแต่ในภาษา ไทยไม่มีคำบอกกาล ทำให้การแปลมีปัญหาในเรื่องเวลา เพราะในขณะที่ภาษาอังกฤษใช้กาลที่แตกต่างกัน แต่อาจแปลเป็นภาษาไทยได้เหมือนกัน ทำให้คำแปลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ดังนั้นเพื่อให้เห็นเวลาในประโยคภาษาไทยจึงจำเป็นต้องเติมคำขยายเข้าไปซึ่งการเติมนั้น จะต้องสั้น กะทัดรัด และได้ใจความกระชับที่สุด

ครูภาษาอังกฤษ

ครูภาษาอังกฤษ

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ความแตกต่างทางโครงสร้างของภาษาไทยกับภาษาอังกฤษที่มีผลต่อการแปล

ความแตกต่างทางโครงสร้างของภาษาไทยกับภาษาอังกฤษที่มีผลต่อการแปล

          โครงสร้างของประโยคเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการใช้ภาษา เป็นสิ่งที่บอกผู้สื่อสารว่าควรจะนำคำศัพท์แต่ละคำมาประกอบกันอย่างไรจึงจะสื่อสารได้เข้าใจ หากนักแปลรู้แต่ความหมายของคำศัพท์ทุกคำในประโยคแต่ไม่เข้าใจโครงสร้างและความสัมพันธ์ของประโยคเลย ก็อาจจะทำให้ตีความได้ไม่ถูกต้องและเกิดปัญหาขึ้นกับผู้แปลได้ เพราะโครงสร้างของภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีความแตกต่างกันในเรื่องดังต่อไปนี้

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการแปล


บทที่ 1
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการแปล
ความสำคัญของการแปล
        ในปัจจุบันนี้ ผู้คนใช้ภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือในการอธิบายสิ่งต่างๆ และสื่อสารติดต่อกับคนทั่วโลก ทำให้ภาษาอังกฤษมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การแปลมีความสำคัญมากขึ้นด้วย เพราะในบางครั้งผู้ที่จะติดต่อกับชาวต่างชาติมีทักษะทางภาษาไม่เพียงพอ จึงต้องให้นักแปลเข้ามาช่วยเพื่อช่วยประหยัดเวลา และสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้สาเหตุที่มีการใช้ภาษาอังกฤษในหน่วยงานต่างๆมากที่สุด คือ หน่วยงานต่างๆมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น มีการติดต่อกับชาวต่างชาติมากขึ้น และมีตำรา เอกสารหลากหลายสาขาวิชาที่เป็นภาษาอังกฤษให้ศึกษาหาความรู้ จากที่กล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าการแปลนั้นสำคัญ เป็นสิ่งที่ทำให้คนสองประเทศเข้าใจกันได้และสามารถยึดเป็นอาชีพเพื่อสร้างชื่อเสียงให้นักแปลได้ ดังนั้น นักแปลจะต้องหมั่นฝึกฝน ตื่นตัวในการศึกษาค้นคว้าอยู่เสมอ เพื่อให้มีประสบการณ์ ความรู้ในด้านศัพท์เฉพาะ และถ่ายทอดผลงานได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ

Profile




PROFILE