วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ฝึกทักษะการฟัง จากเรื่อง Columbus Day


ฝึกทักษะการฟัง จากเรื่อง Columbus Day

            การที่เราจะฝึกทักษะในภาษาอังกฤษนั้นจำเป็นจะต้องฝึกอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นทักษะการฟัง พูด อ่าน หรือเขียน ซึ่งกว่าจะทำให้ดีได้ล้วนต้องผ่านการฝึกฝนมาก่อน แน่นอนว่าผู้ที่กำลังฝึกภาษาต่างพยายามค้นหาวิธีต่างๆเพื่อพัฒนาตนเอง แต่นับว่าโชคดีที่ในปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปมาก ส่งผลให้เราสามารถฝึกพัฒนาทักษะได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เครือข่ายไร้พรมแดน ผู้ฝึกภาษาจะได้ฝึกทั้งทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน และไวยากรณ์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะเรื่องทักษะการฟัง เราสามารถหาแหล่งฝึกฝนได้มากมายไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงภาษาอังกฤษ ฟังวิทยุภาษาอังกฤษ หรือดูหนัง soundtrack ให้มากๆตามคำแนะนำของใครหลายๆคน เราสามารถเลือกได้เพียงพิมพ์ค้นหาเพลงที่เราต้องการ แต่ในครั้งนี้จะเป็นการฝึกทักษะการฟัง เรื่อง Columbus Day: Some Love It, Others Not So Much จากเว็บไซต์ VOA ซึ่งย่อมาจาก Voice of America


            เว็บไซต์ VOA (http://learningenglish.voanews.com/) เป็นเว็บไซต์ข้าพเจ้าได้รับการแนะนำเว็บนี้จากเพื่อนคนหนึ่ง ในเว็บไซต์นี้จะมีให้เราเลือกภาษาและลิ้งเว็บไซต์ ซึ่งเลือก Learning English เพราะเจ้าของภาษาจะพูดช้ากว่าปกติ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกภาษาในระยะแรก ในเว็บไซต์จะมีทั้งข่าวและบทความอัพเดทอยู่เป็นประจำทุกวันเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากข่าวประจำวัน เราสามารถเลือกจะดูวิดีโอ หรือคลิปเสียงก็ได้ ซึ่งครั้งนี้เลือกฟังคลิปเสียงเพื่อที่จะฝึกพัฒนาทักษะการฟัง ซึ่งเรื่องที่เลือกฟังคือ เรื่อง Columbus Day: Some Love It, Others Not So Much เพราะน่าสนใจดี ในคลิปเสียงนี้ มีความยาวทั้งหมด 5 นาที 18 วินาที โดยในครั้งแรกฟังโดยไม่ดูเนื้อหาในบทความ เป็นการฟังคร่าวๆก่อนว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับอะไร ซึ่งเมื่อข้าพเจ้าได้ลองฟังครั้งแรกและลองจับใจความดูแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับโคลัมบัสอะไรสักอย่าง มีการพูดถึงการค้นพบของทวีปอเมริกา ว่าโคลัมบัสคิดว่าน่าจะไม่มีที่ไหนแล้วนอกจากที่เขาอาศัยอยู่ ในครั้งแรกเมื่อเขามาถึงทวีปอเมริกาเขาคิดว่าที่นี่เป็นอินเดียและบอกว่าเป็นโลกใหม่ และคลิปเสียงกล่าวว่าในวันนี้ชาวอเมริกาจะมีการจะรวมตัวและเฉลิมฉลองกัน และทำแบบเดิมอีกครั้งในครั้งที่สองคือฟังคลิป เพื่อหาเนื้อหาที่อาจตกหล่นไป ต่อมาจึงเปิดคลิปเสียงพร้อมกับอ่านบทความไปพร้อมกันแล้วดูว่าคำไหนที่ตนฟังไม่ออก และตกหล่นไป
            จากบทความในเรื่องนี้บอกว่าทุกวันจันทร์ที่สองของเดือนตุลาคมเป็นวัน Columbus’s Day หรือวันโคลัมบัส ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ และส่วนใหญ่สำนักงานราชการจะปิดในวันนี้ วันโคลัมบัสเป็นวันที่เขา นักสำรวจชาวอิตาลีชื่อว่า คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสค้นพบทวีปอเมริกาเป็นครั้งแรก ในครั้งแรกเขามีความคิดว่าเขาสามารถเข้าถึงแดนตะวันออกไกล โดยแล่นเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกจากยุโรป เขาคิดว่ามันใช่แต่เขาคิดผิดว่าโลกนี้เล็ก เขาไม่ได้คิดเลยว่าทวีปอื่นๆและมหาสมุทรมีขนาดใหญ่มหาศาลอยู่ระหว่างยุโรปและเอเชียตะวันออก โคลัมบัสและลูกเรือได้มาถึงเกาะที่พวกเขาเรียกว่า ซัลวาดอร์ ที่บาฮามาส พวกเขาสำรวจเกาะนั้น ซึ่งเป็นเกาะที่ใกล้คิวบาและฮิสเปนิโอลา เขาเชื่อว่าเกาะเหล่านี้เป็นชายฝั่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเรียกว่า “อินดีส” ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เขาเรียกคนที่อาศัยที่นั่นว่า “อินเดีย” เขาปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเขามีความผิดพลาดทางด้านภูมิศาสตร์ แม้ว่าพืชท้องถิ่นที่เขาสำรวจจะไม่เป็นที่รู้จักในยุโรป และคนพื้นเมืองไม่เข้าใจภาษาพูดใดๆในทางตะวันออก จากนั้นเขาก็ออกเดินทางอีกครั้งจนเห็นชายฝั่งของทวีปอเมริกาใต้ เขาก็ได้สำรวจและนึกว่าที่นั่นเป็นอินเดีย แต่เขาก็ไม่พบเครื่องเทศหรือทองอย่างที่เขาหวัง บางคนไม่เห็นด้วยที่จะให้วันนี้เป็นวันหยุดเพราะเขาว่าโคลัมบัสไม่ได้เป็นคนค้นพบคนแรก เพราะมีชาวพื้นเมืองอาศัยที่นั่นอยู่แล้ว และนอกจากนี้ยังเป็นที่คนทารุณกดขี่ข่มเหงคนพื้นเมืองให้ค้นหาทอง และยอมรับศาสนาคริสต์ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังได้รับการยกย่องและให้เป็นวันหยุดราชการเพราะมีจุดประสงค์ต้องการให้คนในประเทศรวมตัวกันและร่วมมีความภาคภูมิใจและรักชาติไปด้วยกัน บางคนก็ใช้เวลาในวันนี้ใช้ส่วนลดซื้อของ ฉลองร่วมกัน
            และเมื่อฟังจบลองไปค้นหาเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลต่าง ได้ข้อมูลเกี่ยวกับวันโคลัมบัสดังนี้ คือ ในวันที่12 ตุลาคม พ.ศ. 2035 คริสตอเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) นักเดินเรือชาวอิตาเลียน ค้นพบ ทวีปอเมริกา โดยแล่นเรือมาขึ้นฝั่งที่ เกาะบาฮามาส์ (Bahamas) ทางตะวันออกของรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศคิวบาในปัจจุบัน และตั้งชื่อว่า "เกาะซาน ซัลวาดอร์" (San Salvador Island) ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นประเทศอินเดีย และเรียกชาวอเมริกันพื้นเมืองว่า "อินเดียน” (Indians) ซึ่งออกมาต้อนรับคณะของนักสำรวจอย่างเป็นมิตร ทั้งนี้โคลัมบัสได้รับการสนับสนุนจากกษัตริย์สเปนคือ พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ ที่ 2 (Ferdinand II of Aragon) และ พระนางเจ้าอิสซาเบลลา ที่ 1 (Isabella of Castile) ให้ออกค้นหา “โลกใหม่” หรืออินเดียและจีนเพื่อค้าขายเครื่องเทศ ผ้าไหมและยาฝิ่น โคลัมบัสพร้อมกับลูกเรือ 90 คนและเรือ 3 ลำได้แก่ "ซานตา มาเรีย" (Santa Maria), "พินตา" (Pinta) และ "ซานตา คลารา" (Santa Clara) ออกจากท่าเรือเมืองเปลูซ (Palos) ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2035 แล่นเรือไปทางทิศตะวันตกข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ไปถึงเกาะบาฮามาส์ จากนั้นเขาเดินเรือต่อไปจนถึงคิวบา ไฮติ และกลับถึงสเปนในวันที่ 15 มีนาคม 2036 จากนั้นเขาก็ออกเดินเรือค้นหาโลกใหม่อีกสามเที่ยว ไปถึง เปอร์โตริโก จาเมกา ตรินิแดด เวเนาซุเอลา และคอคอดปานามา โดยไม่เคยไปถึงโลกใหม่ที่เขาค้นหา แต่อย่างไรก็ตาม โคลัมบัสก็เชื่อมาตลอดจนเสียชีวิตว่าดินแดนที่เขาค้นพบนั้นคือทวีปเอเชีย ภายหลังได้มีการกำหนดให้วันที่ 12 ตุลาคมของทุกปีให้เป็น "วันโคลัมบัส" (Columbus Day) มีการเฉลิมฉลองกันในสหรัฐอเมริกาและประเทศต่าง ๆ ในทวีปอเมริกาใต้ ในอดีตเคยเชื่อกันว่าโคลัมบัสเป็นชาวยุโรปคนแรกที่ค้นพบอเมริกา แต่จริง ๆ แล้ว เลฟ เอริคสัน (Leaf Erikson) ชาวไวกิ้งเคยเดินทางมาพบทวีปอเมริกาก่อนหน้านี้ และเคยมีนิคมชาวไวกิ้งทางตะวันออกของแคนาดาในศตวรรษที่ 11
            ในการฝึกทักษะการฟังครั้งนี้ เนื่องจากเว็บไซต์นี้พูดช้ากว่าปกติ จึงทำให้ฟังได้ง่ายกว่าคลิปเสียงข่าวทั่วไปเพราะเขาจะพูดเร็วจนฟังไม่ทัน ซึ่งในการฟังเรื่องนี้ในครั้งแรกก็พอจะรู้และจับใจความได้บ้างว่าพูดถึงวันโคลัมบัส จัดวันไหน เขาเป็นใคร ทำไมถึงให้เป็นวันสำคัญ และเขาทำอะไรบ้างในวันนั้น แต่ก็มีบางคำที่ฟังไม่ค่อยออก เช่นคำว่า thought explored  native devastating เป็นต้น ซึ่งในการฟังครั้งนี้นอกจากจะได้ฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษแล้ว ยังได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวันสำคัญและประวัติศาสตร์ของชาติอเมริกาอีกด้วยเพราะตนไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีวันนี้เป็นวันหยุดราชการด้วย และเห็นว่าเว็บไซต์ VOA เป็นเว็บที่น่าสนใจและดีทีเดียวเพราะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษพร้อมกับข่าวประจำวันและความรู้รอบตัว แต่อย่างไรก็ตามตนยังจะต้องฝึกเพื่อพัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ เพราะภาษาอังกฤษเป็นเรื่องของทักษะที่ต้องหมั่นฝึกฝนเป็นประจำสม่ำเสมอ และต่อเนื่องเพื่อที่เราสามารถฟัง พูด อ่าน เขียน ได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม












ที่มา :














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น