บทที่
5
ถึงแทนเจียร์และกรานาดา
‘ถ้าอย่างนั้น
เมืองเหล่านั้นมีปัญหาอะไรล่ะ เมื่อลุงกลับไปเยือนอีกครั้ง’
ผมถามลุงของผมเมื่อผมมาถึงในวันถัดมา
‘เรามาคุยกันเรื่องการเดินทางครั้งของลุงที่จีนกันเถอะ’
ลุงตอบด้วยเสียงแผ่วเบา
ในเส้นทางกลับจากจีนนั้น
ลุงได้แวะที่เกาะสุมาตราอีกครั้งหนึ่ง ต่อจากนั้นลุงก็ได้ขึ้นเรือลำใหญ่
และล่องเรือไปที่อินเดียอยู่เป็นเวลาสี่สิบวัน เมื่อพวกเราได้มาถึงที่นั่น
ลุงคิดว่าจะไปเยี่ยมท่านสุลต่านแต่ลุงก็กลัว
บางทีท่านอาจจะจำเรื่องเครื่องบรรณาการที่จะมอบให้ผู้ครองเมืองจีนได้
และตอนนั้นลุงสูญเสียมันทั้งหมด!
จากอินเดีย
ลุงก็ได้แล่นเรือไปยังชายฝั่งของของอาระเบีย
ต่อจากนั้นลุงได้ท่องเที่ยวตรงไปยังเมืองเปอร์เซียและแบกแดด ลุงได้เดินทางข้ามทะเล
และในที่สุด ลุงได้มาถึงเมืองหนึ่งในดามัสกัส
มันผ่านมานานเป็นยี่สิบปีแล้วจากที่ได้ไปเยือนครั้งสุดท้าย แต่ลุงยังจำมันได้ดี!
ในดามัสกัส
ลุงได้ยินบางสิ่งบางอย่างที่น่าสนใจมากทีเดียว ครูผู้มาจากเมืองแทนเจียร์ตอนนี้ได้อาศัยและทำงานที่เมืองนี้
ลุงตื่นเต้นที่จะได้พบท่านผู้นั้น และลุงก็ได้ถามเขาถึงข่าวคราวที่บ้านของลุงทันที
พ่อของลุงเสียชีวิตแล้วแต่แม่ของลุงยังมีชีวิตอยู่ เขาบอกลุงแค่นี้ ลุงรู้สึกแย่มากเกี่ยวกับเรื่องของพ่อ
และทันใดนั้น หลังจากเวลายี่สิบสี่ปีผ่านไปอย่างยาวนาน ลุงเริ่มคิดได้ว่าน่าจะกลับบ้านไปหาแม่ของลุง
ลุงได้เดินทางไปยังเมืองอัลเลปโป
แต่ลุงได้ยินข่าวร้ายบางอย่างจากที่นี่ เกิดโรคระบาดขึ้นไม่ไกลจากที่นี่
ผู้คนมากมายล้มป่วยด้วยโรคระบาดนี้
อย่างแรกลุงเดินได้เดินทางมาอย่างเร่งรีบจากเมืองนี้ไปยังเมืองในซีเรีย
ลุงต้องการที่จะพักที่ห่างจากโรคระบาดหลานเห็นหรือยัง
แต่หลังจากช่วงนั้นเมื่อพวกเราได้มาถึงสถานที่ใหม่
โรคระบาดก็ได้แพร่กระจายที่นี่ก่อนหน้านั้นแล้ว
ดังนั้นลุงจึงกลับมาที่ดามัสกัส
ลุงได้เรียนรู้สิ่งที่เลวที่สุดจากที่นี่ ช่วงเวลานั้นผู้คนมากมายทั้งชาย
ผู้หญิงและเด็กต่างพากันล้มตายทุกวันด้วยโรคระบาด
ทุกคนออกมาบนถนนด้วยพระคัมภีร์ของพวกเขาและอฐิษฐานให้ครอบครัวของพวกเขา
แต่ไม่มีใครสามารถหยุดโรคระบาดนี้ได้
จากข่าวโรคระบาดทำให้ลุงคิดถึงแม่ของลุงอีกครั้ง
แม่จะป่วยด้วยหรือเปล่า อาจเป็นไปได้
ดังนั้นลุงจึงได้เดินทางไปแสวงบุญอีกครั้งหนึ่ง ต่อจากนั้นลุงเริ่มตรงไปไคโรเพื่อกลับบ้าน
แน่นอนลุงรู้ว่ามันเป็นเมืองที่มหัศจรรย์เมื่อปีก่อนหน้านี้
แต่ตอนนี้มันได้แตกต่างจากเดิมไปมาก
ทุกวันนี้โรคระบาดได้คร่าชีวิตผู้คนในเมืองนี้ไปมากกว่าสองพันหนึ่งร้อยคน
ลุงของผมหยุดเล่าและมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง
‘แล้วลุงไม่ป่วยหรือครับ’ ผมถาม
‘เปล่า ลุงไม่ได้ป่วย’ เขาพูดเอื่อยๆ ‘ลุงคงต้องขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าสำหรับสิ่งนี้’
ลุงได้ออกมาจากไคโร
ท่องเที่ยวไปยังเมืองตูนิส และต่อจากนั้นลุงก็ได้ขึ้นเรือไปยังเกาะแห่งซาร์ดิเนีย
พวกเราพักที่นั่นได้ไม่นาน ที่บนเกาะนั่นมีเหล่าโจรที่ต้องการปะทะและฆ่าพวกเรา
ดังนั้นพวกเราจึงออกจากเมืองนี้อย่างเร่งรีบ
หลังจากเมืองซาร์ดิเนียแล้ว
ลุงได้ล่องเรือไปยังแอฟริกาเหนือและจากนั้นจึงท่องเที่ยวไปยังเมืองแทนเจียร์ด้วยลา
แต่ก่อนที่จะถึงบ้านลุงไม่นานนัก ลุงก็ได้รับข่าวร้ายเกี่ยวกับแม่ของลุง
ท่านได้จากไปแล้ว คนในเมืองทาซาบอกกับลุง ลุงเสียใจมากที่ได้ยินอย่างนั้น
ในที่สุด
ลุงก็ได้มายังเมืองที่สำคัญที่สุดของที่นี่คือ เมืองเฟซ และลุงได้พบกับผู้ครองเมืองของที่นั่นคือท่านสุลต่าน
อาบู อินาน สำหรับลุงแล้ว ท่านเป็นสุลต่านที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลก บ่อยครั้งอาห์เหม็ด
สิ่งอยู่ที่นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
หลังจากนั้นลุงก็ได้กลับไปยังเมืองแทนเจียร์เพื่อเยี่ยมแม่ของลุงที่สุสาน
ตอนนั้นลุงป่วยอยู่นานถึงสามเดือน แต่กระนั้นลุงก็ได้ยินสหายของลุงคุยกันเรื่องปัญหาในอาณาจักรแห่งกรานาดา
อัล อันดาลัส ‘กษัตริย์ อัลฟอนโซ่ ต้องการจะต่อสู้หับน้องชายที่ปราสาท’ พวกเขาพูด ‘พวกเราต้องไปช่วยเขา’
หลังจากนั้นไม่นานนัก
พวกเราได้ล่องเรือไปยังอาณาจักรกรานาดา แต่กษัตริย์อัลฟอนโซ่ได้สิ้นพระชนม์ด้วยโรคระบาดก่อนที่พวกเขาจะมาถึง
พวกเราไม่จำเป็นจะต้องต่อสู้อีกต่อไป ดังนั้นลุงจึงพักผ่อนและไปเยือนสถานที่น่าสนใจทั้งหมดในประเทศนี้
ตอนนี้ลุงต้องเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเวลาที่นั่น
วันหนึ่ง ลุงอยู่ชายฝั่งบนเส้นทางไปมะละกา เมื่อลุงพบกับเหล่าทหารที่อยู่บนหลังม้า
พวกเขาได้ชวนให้เดินทางไปกับพวกเขา เนื่องจากเส้นทางไปมะละกาเป็นทางที่อันตราย
ที่นั่นมีเรือของศัตรูอยู่ใกล้ชายฝั่ง ลุงอยากจะไปกับพวกเขา
แต่ในที่สุดลุงค่อยพักทีหลังและเดินทางท่องเที่ยวกับเพื่อน
ต่อมาบนเส้นทางมะละกา
พวกเราได้พบซากของม้าบนเส้นทางนี้ หนึ่งในนั้นเป็นม้าของทหาร
และไม่นานลุงได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ว่า ทหารเหล่านั้นเป็นทหารมือใหม่ที่เพิ่งเคยได้รับมือกับอันตราย
ศัตรู และกะลาสีเรือ แต่ลุงสบาย ลุงคงต้องขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งเหล่านั้นแล้วลุงก็อฐิษฐานเพื่อพี่น้องพวกเรา
ต่อจากนั้น
ลุงได้เดินทางไปยังเมืองที่มีชื่อเสียงแห่งกรานาดา
เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีสวนสวยงาม ที่นั่นลุงได้พบกับนักเขียนกลุ่มหนึ่ง
พวกเขาสนใจเรื่องราวการเดินทางของลุงและเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งนามว่า อิบนู จูซายย์ ตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ
และเริ่มบันทึกการเดินทางอันยาวนาน ลุงไม่รู้ว่ามันเป็นเวลานานแค่ไหนแล้ว แต่อิบนู
จูซายย์ ได้เป็นเพื่อนคนสำคัญของลุงในภายหลัง
หลังจากนั้นไม่นานนัก
พวกเราก็ออกจากอาณาจักรแห่งกรานาดาและล่องเรือกลับไปยังโมรอคโค
‘ในตอนนั้นลุงได้พักอาศัยที่บ้านในประเทศของพวกเรา
ใช่หรือเปล่าครับลุง’ ผมพูด
‘อืม… เปล่า’ เขายิ้ม ‘ลุงไม่ได้อยู่ที่นั่น
ยังมีอีกหนึ่งดินแดนที่ลุงได้ไปเยือน เป็นสถานที่มีทะเลทรายร้อนระอุและงูพิษ
ค่อยกลับมาฟังต่อพรุ่งนี้เช้านะอาห์เหม็ด’
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น