วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การฝึกทักษะจากการอ่าน passage

การฝึกทักษะจากการอ่าน passage

            ภาษาเป็นเครื่องมือที่ใช้สื่อสาร รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้และใช้ในการสื่อความหมายและเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งในปัจจุบันภาษาอังกฤษก็มีบทบาทมากขึ้นอย่างกว้างขวางในติดต่อสังคมโลก เมื่อเราเข้าไปใช้อินเทอร์เน็ตจะพบว่าส่วนใหญ่เว็บเพจจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เพราะภาษาอังกฤษนั้นเป็นภาษาสากลและนิยมใช้กันทั่วโลก และนอกจากนี้ยังเป็นกุญแจสำคัญในการติดต่อสื่อสารและการค้นคว้าหาความรู้ ดังนั้นการเข้าใจภาษาอังกฤษจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง อย่างที่ทราบกันว่าในการฝึกทักษะทางภาษา จะประกอบไปด้วย 4 ทักษะ นั่นคือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ในการฝึกครั้งนี้จะเป็นการฝึกการอ่าน เนื่องจากทักษะการอ่านเป็นเครื่องมือสำคัญในการแสวงหาความรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการศึกษา การเจรจาต่อรอง และเพื่อการแข่งขันทางการประกอบอาชีพ จะเห็นได้ว่าทักษะการอ่านนั้นเป็นทักษะที่สำคัญในทุกระดับ เนื่องจากเมื่อค้นหาความรู้ในสาขาวิชาต่างๆ ต่างก็ต้องใช้ทักษะการอ่านเพื่อเป็นสื่อการเรียนรู้ และทำความเข้าใจ ดังนั้นเมื่ออ่านสื่อต่างๆที่เป็นภาษาอังกฤษแล้ว พบว่าตนยังไม่ค่อยมีความเข้าใจในเนื้อเรื่องเท่าไหร่นัก จึงตระหนักได้ว่าตนจำเป็นต้องฝึกทักษะด้านนี้ด้วย ซึ่งในสัปดาห์นี้จะเป็นการฝึกการอ่าน จาก passage ซึ่งเราจะได้ทราบเทคนิควิธีการฝึก เนื้อหา และสิ่งที่ได้รับจากการฝึกอ่านครั้งนี้


            ในการฝึกการอ่าน ข้าพเจ้าได้ค้นหาเทคนิคในการฝึกทักษะการอ่านจากแหล่งข้อมูลต่างๆ จนได้เจอเว็บไซต์หนึ่ง ชื่อว่า www.englishtown.com มีบทความที่สอนเทคนิคการอ่านที่ทำให้อ่านได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพนั้น ซึ่งสิ่งสำคัญคือการพัฒนาทักษะการอ่านผ่านๆ กับการอ่านเพื่อจับใจความ การอ่านผ่านๆ คือการอ่านเนื้อหาโดยเร็วเพื่อหาว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร ส่วนการอ่านเพื่อจับใจความ คือ การอ่านเนื้อหาทั้งหมดอย่างละเอียดเพื่อหาว่าใจความสำคัญคืออะไร โดยการฝึกอ่านดังกล่าวมีทั้งหมด 5ขั้นตอนดังนี้ คือ กำหนดเวลาในการอ่าน เมื่อรู้ว่ามีเวลาจำกัด จะทำให้มุ่งความสนใจไปที่คำหรือวลีที่สำคัญซึ่งเข้าใจความหมายของมันดี เพื่อทำความเข้าใจความหมายโดยรวมของเนื้อหาเหล่านั้น ต่อมาคือพยายามสันนิษฐานชื่อของเรื่องที่อ่าน โดยปกติชื่อเรื่องจะบอกถึงใจความสำคัญของงานเขียน และวิเคราะห์ก่อนอ่านว่าข้อมูลที่ต้องการหามีอะไรบ้าง หลังจากนั้นเมื่ออ่านเนื้อเรื่องแล้ว ให้เน้นคำศัพท์ยาก เพื่อที่จะกลับมาดูทีหลังเพื่อเดาความหมายหรือค้นหาความหมายทีหลัง ต่อมาคืออ่านย้อน โดยเริ่มจากการหาคำสำคัญจากข้างล่างของเรื่องแล้วย้อนขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงข้างบน ซึ่งเมื่อรู้ถึงเทคนิควิธีการเหล่านี้เราก็สามารถนำมาใช้ในการอ่าน passage ต่อไปได้
             การฝึกอ่านครั้งนี้เริ่มจากการอ่าน passage สั้นจากข้อสอบ GAT ภาษาอังกฤษ ในปี 2553 มีความยาว 16 บรรทัด ซึ่งใน passage นี้เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็ก ในเนื้อเรื่องกล่าวว่ามีอยู่ 2 หนทางที่จัดการกับพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กได้ คือ การป้องกัน และ การปฏิบัติตามอาการก้าวร้าวที่เกิดขึ้น โดยก่อนจะเกิดพฤติกรรมการป้องกันได้ ก็ต้องมีการเลี้ยงดูที่ดี นั่นคือพ่อแม่จะต้องควบคุมอารมณ์ตนได้ ไม่ใช้การบังคับ ใช้วิธีการที่สร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหา ในการพูดก็จะต้องอ่อนโยน น้ำเสียงนุ่มนวล พ่อแม่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้แกเด็กเหล่านั้นได้ ซึ่งถ้าพ่อแม่ไม่ทำแบบนั้น เป็นเรื่องยากที่เด็กจะเรียนรู้พฤติกรรมที่ดีได้ ซึ่งการป้องกันจะเป็นตัวชี้วัดในการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น ผ่อนคลายและปลอดภัย โดยเด็กที่เติบโตจากสภาพแวดล้อมแบบนี้ จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ทีสามารถควบคุมอารมณ์ตนได้ นอกจากนี้ พ่อแม่จะต้องสอนให้เด็กรู้จักการแสดงออกถึงความรู้สึกอย่างเหมาะสม รู้วิธีสงบอารมณ์เมื่อโกรธหรือแย่ เช่น การนับหนึ่งถึงสิบ การฝึกหายใจเข้าออก และอีกหลายๆหนทาง ซึ่งการแก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องใช้ความพยายาม ซึ่งในการอ่านเรื่องนี้ได้ฝึกการจับใจความ และสิ่งน่าสนใจอีกมาก
            ในการอ่าน passage เรื่องนี้ทำให้ได้ฝึกการอ่าน ทั้งการอ่านแบบผ่านๆ และการอ่านแบบจับใจความสำคัญ โดยใจความสำคัญของเรื่องนี้คือการเลี้ยงดูของพ่อแม่เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็ก และคำศัพท์ที่น่าสนใจ และไม่ค่อยได้พบ เช่นคำว่า symptoms, aggressive, preventing และ emerge เป็นต้น  ได้สังเกตในเรื่องของการเติม prefix-suffix ในแต่ละคำเช่นคำว่า prevention เป็นคำนามที่แปลว่าการป้องกัน ซึ่งมาจากคำว่า prevent ที่แปลว่ายับยั้ง เมื่อเปลี่ยนมาเติม –ive เป็นคำว่า preventive ซึ่งเป็นคำวิเศษณ์ที่แปลว่า ซึ่งป้องกัน ซึ่งเป็นการเติม suffix เพื่อเปลี่ยนชนิดของคำไปนั่นเอง และได้สังเกตโครงสร้างของประโยคใน passage นี้ คือประโยคส่วนมากจะใช้ past tense ในการเขียน และมี gerund อยู่เยอะในประโยค หลังจากอ่านเรื่องนี้จบสามารถนำเรื่องของการใช้ another การใช้ must ไปค้นคว้าเพิ่มเติม นอกจากจะได้ความรู้ในส่วนของไวยากรณ์ทางภาษาและคำศัพท์แล้ว ยังได้รับความรู้ใหม่เกี่ยวกับวิธีการป้องกันพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กซึ่งสามารถนำความรู้นี้ปรับใช้ได้จริง

            ในการฝึกทักษะครั้งนี้จะเห็นได้ว่าได้ความรู้มากมาย แต่ในการอ่านนั้นใช้เวลาในการอ่านมากเกินไป เนื่องจากคลังคำศัพท์น้อยเกินไป ไม่ค่อยรู้คำศัพท์ ต้องเปิดพจนานุกรมภาษาอังกฤษ-ไทย บ่อยๆ ทำให้เสียเวลาในการอ่านซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ต้องใช้เวลาน้อยกว่านั้น ดังนั้นจึงควรปรับปรุงพัฒนาทักษะการอ่านของตนเองมากขึ้นในครั้งต่อไป แต่ในการอ่านเพื่อฝึกทักษะครั้งนี้ได้ความรู้เสริมขึ้นอีกด้วย ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการอ่านภาษาอังกฤษเป็นกุญแจสำคัญในการติดต่อสื่อสารและการค้นคว้าหาความรู้ของคนทุกคน เพราะช่วงเวลานี้ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็มีภาษาอังกฤษอยู่รอบตัวเราตลอด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นเราต้องเร่งพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อที่จะใช้ทักษะทางด้านภาษาได้เต็มศักยภาพต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น