วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บทที่ 6 ถึงมาลิและกลับ

บทที่ 6
ถึงมาลิและกลับ
           
            เมื่อผมได้มาถึงวันต่อมา ลุงของผมพูดว่า อาห์เหม็ด ก่อนหน้านี้หลานอยากเป็นนักเดินใช่ไหม แล้วตอนนี้หลานยังอยากเป็นนักเดินทางอยู่ไหม
            ครับ ผมได้ตอบไป มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมรู้ แต่ผมอยากเดินทางอย่างแท้จริง
            ดีมาก เขาพูด ดังนั้น หลานจงตั้งใจฟังให้ดีๆล่ะ เพราะว่าจะได้เรียนรู้มากขึ้น
            สำหรับการเดินทางครั้งสุดท้ายนี้ ลุงได้เดินทางลงใต้เพราะลุงต้องการไปเยี่ยม มาลิ หลานจะเห็นว่าปีก่อนในไคโร ลุงได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับกษัตริย์แห่งมาลิผู้มีชื่อเสียง แมนซ่า สุไลมาน และทองคำของเขา


            ดังนั้นลุงจึงออกจากมืองเฟซและเดินทางข้ามไปยังภูเขาแอตลาสไปยังเมืองซิจิลมาซะ ตอนนี้หลานได้ไหมว่า ลุงได้พบกับคนที่ชื่อว่า อัล-บุชรี ที่เมืองจีน ใช่ในซิจิลมาซะลุงได้พบกับน้องชายของอัล-บุชรีด้วย! มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก สองพี่น้องอยู่ต่างดินแดนแต่ลุงกลับได้พบทั้งคนพี่และคนน้อง
            ต่อจากนั้นลุงได้เดินทางด้วยอูฐและกองคาราวานไปยังเมืองทากาห์ซ่า มันไม่ได้เป็นเมืองที่สวยงามเท่าไหร่ แต่มีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจ ผู้คนในเมืองนั้นได้นำเกลือก้อนใหญ่จากทะเลทรายมาสร้างบ้านของพวกเขา และมีมัสยิดที่ทำด้วยเกลืออีกด้วย!
            ลุงได้พักในบ้านเกลือหลังเล็กๆในหมู่บ้าน แต่รสชาติของน้ำที่นั่นแย่จนยากที่จะดื่มเข้าไป ดังนั้นสิบวันหลังจากนั้นพวกเราได้ออกจากเมืองและเริ่มออกเดินทางข้ามทะเลทรายที่ร้อนระอุ ยาวนาน และอันตราย
            อย่างแรก ลุงและสหายได้ออกมาจากกองคาราวานทุกเช้าเพื่อหาอาหารให้อูฐของพวกเรา แต่แล้ววันหนึ่งพวกเราได้รับข่าวร้ายบางอย่าง อิบนู ซิริ คนในกองคาราวานของพวกเราได้เดินเข้าไปในทะเลทรายคนเดียวพร้อมกับขวดบรรจุน้ำ หลังจากนั้นเหล่าเพื่อนก็ได้พบเขานอนตายอยู่ใต้ต้นไม้ หลังจากนั้นพวกเรามักจะอยู่กับกองคาราวานเสมอ หลานจะต้องไม่ไปไหนคนเดียวในทะเลทรายนะอาห์เหม็ด หลานสามารถหลงทางได้อย่างง่ายดายและตายอย่างรวดเร็วท่ามกลางแดดร้อน
            มีงูยักษ์มากมายในทะเลทรายด้วย และหนึ่งในกองคาราวานของเรานั้นชอบที่จะเล่นกับพวกมันด้วยล่ะ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเขารู้ไหม ในเช้าวันหนึ่งเจ้างูตัวนั้นได้ฝังเขี้ยวของมันเข้าไปบนนิ้วของเขานิ้วหนึ่ง เขาเหมือนใกล้จะไม่รอด สุดท้ายเขาตัดนิ้วออกจากมือของเขาทิ้งด้วยมีด ดังนั้นเขาจึงรอดมาได้ จำไว้นะหลาน การเล่นกับงูเป็นสิ่งที่อันตรายเป็นอย่างมาก!
            พวกเราเดินทางเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพื่อไปยังเมืองที่ใหญ่ที่สุดในมาลิเพื่อพบกับกษัตริย์แมนซ่า สุไลมาน แต่หลังจากพวกเราได้มาถึงที่นี่ไม่นานนัก ลุงได้กินอะไรบางอย่างที่ผิดสำแดงเข้าไป ลุงจึงป่วยอยู่ระยะหนึ่ง
            ปกติแล้ว เมื่อหลานได้เป็นผู้เดินทางที่สำคัญ ผู้ครองเมืองจะมอบของกำนัลที่มีค่าราคาแพงให้แก่พวกเราเมื่อเดินได้ทางมาถึงเมืองเป็นครั้งแรกดังนั้นลุงจึงรอที่ห้องนอนของลุงวันแล้ววันเล่าเพื่อให้คนของท่านแมนซ่า สุไลมานมาที่ห้องของลุง
            หลังจากนั้นราวสัปดาห์หนึ่ง  คนของพระกษัตริย์ได้มาถึงพร้อมกับของกำนัล  เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นเสื้อผ้าดีๆ หรือไม่ก็เป็นทองซักก้อนหนึ่ง ลุงคิด แต่ไม่! พวกเขาให้เพียงแค่ขนมปังเก่าๆและก้อนเนื้อ
            เมื่อลุงรู้สึกดีขึ้น ลุงได้ไปเยือนยังพระตำหนักของกษัตริย์ที่งดงามทุกวัน ลุงรอที่จะได้รับของกำนัลอื่นอีก แต่ลุงก็ไม่ได้รับอะไรเลย สุดท้ายลุงจึงพูดกับกษัตริย์ว่า ข้าเป็นถึงนักเดินทางทั่วโลก ผู้ปกครองทุกประเทศจะมอบของกำนัลอันล้ำค่าเมื่อข้ามาถึง ข้ามาถึงเมืองของท่านตั้งแต่สี่เดือนที่แล้ว แต่ท่านไม่เจรจากับข้าหรือมอบของกำนัลดีๆให้แก่ข้าเลย ข้าจะสามารถพูดอะไรถึงท่านให้คนอื่นฟังได้ล่ะ
            ไม่นานนักทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปหลังจากนั้น ท่านแมนซ่า สุไลมานตอนนี้ดีกับลุงมาก ท่านมอบบ้านและทองคำมากมายให้แก่ลุง และเมื่อลุงออกจากเมืองกับเพื่อนของลุงที่มาเยือนเมืองนี้ด้วยกัน ซึ่งเป็นคนที่นำทองมาเพิ่มให้ลุงอีกด้วย!
            สุดท้ายลุงและสหายได้มาที่แม่น้ำใหญ่ ลุงเห็นสัตว์ที่แปลกประหลาดอยู่ในแม่น้ำนั่น! มันคล้ายๆกับม้าที่มีรูปร่างอ้วนใหญ่ มีขาที่เล็ก มีเท้าคล้ายช้าง สหายของลุงเรียกมันว่า ฮิปโปโปเตมัส แต่มันเป็นสิ่งใหม่สำหรับลุง!
            ลุงได้เดินทางขึ้นเหนือต่อไปยังทิมบัคตู แต่ในเมืองที่ใกล้ทิมบัคตูนั้นลุงป่วยทันที จากนั้นวันหนึ่งลุงได้รับจดหมายจากท่านสุลต่านแห่งโมร็อคโค ท่านต้องการลุงด่วน ท่านต้องการสิ่งใดนะ ลุงคิด
            พวกเราจึงเดินทางขึ้นเหนือเป็นเวลานานพอสมควร และได้กลับมาที่เหนือภูเขาแอตลาสอีกครั้ง หิมะในฤดูหนาวทำให้ถนนอันตรายมากพวกเราจึงเดินทางไปอย่างช้าๆ
            ท้ายที่สุด หลังจากเวลาผ่านไปเป็นแรมเดือน ลุงได้กลับมาถึงตำหนักของสุลต่านแห่งเมืองเฟซ ข้ามีงานสำคัญให้ท่านทำ!’ ท่านพูดเมื่อท่านมองมาที่ลุง มีนักเขียนหนุ่มอยู่ที่นี่ เขาชื่อว่า อิบนู จูซายย์ และเขาต้องการบันทึกเรื่องราวของท่านทั้งหมด ต่อไปทุกคนจะได้เรียนรู้จากบันทึกเหล่านั้น
            อิบนู จูซายย์หรือครับ ผมพูดออกมาทันที ผมรู้จักเขา! ผมเจอเขาที่กรานาดา!’ เป็นนักบุญที่บอกกับผมเกี่ยวกับการพบเพื่อนใหม่ในต่างแดน มันเคยเกิดขึ้นแล้วก่อนหน้านี้และตอนนี้มันจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง!’
            แน่นอน มันเป็นการพูดคุยที่มหัศจรรย์ที่ได้พูดคุยกับอิบนู จูซายย์อีกครั้ง ลุงได้บอกเขาเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆที่น่าตื่นเต้น สัตว์ที่แตกต่างจากที่นี่ และผู้คนที่น่าสนใจตลอดการเดินทางของลุง และตอนนี้อาห์เหม็ดเรื่องทั้งหมดนั้นได้อยู่ในหนังสือแล้ว ลุงไม่ได้ไปที่นั่นบ่อยนะแต่หลานเอาสิ่งนี้ไป มันเป็นของขวัญของหลาน หลานสามารถอ่านมันและเรียนรู้ให้มากขึ้นจากการเดินทางของลุง เมื่อหลานต้องการ

            จากนั้นลุงของผมก็ได้วางหนังสือเล่มนั้นลงบนมือผม ขอบคุณครับลุง ผมได้นำหนังสือเล่มนั้นกลับบ้านของผมในบ่ายของวันนั้น หลังจากนั้นไม่นานลุงของผมก็ได้เสียชีวิตลง แต่ผมมีบันทึกของเขาและผมจะอ่านมันบ่อยๆเพื่อวันนั้นของผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น