การเรียนรู้ทักษะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ดี
การเรียนรู้เป็นการได้รับความรู้
พฤติกรรม ทักษะที่เป็นสิ่งแปลกใหม่หรือปรับปรุงในสิ่งที่มีอยู่
โดยการเรียนรู้ของคนเรานั้นอาจเกิดขึ้นจากส่วนหนึ่งของการศึกษา พัฒนาตนและการฝึกฝน
ซึ่งมีการยึดเป้าหมายและแรงจูงใจในสิ่งนั้นเป็นตัวช่วย
การเรียนรู้นั้นอาจส่งผลให้คนๆนั้นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ชั่วคราวหรือถาวร
เช่นเดียวกับการเรียนรู้ทักษะทางภาษา
ผู้เรียนจะต้องมีความพยายามอย่างมากในการพัฒนาตนเอง
ศึกษาความรู้จากในห้องเรียนและนอกห้องเรียน เริ่มเรียนรู้ไปเรื่อยๆตามระดับขั้นบันไดโดยทำแนวทางและวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตนเอง
ซึ่งการเรียนรู้ทักษะทางภาษาอังกฤษที่ดีนั้นผู้เรียนสามารถทำได้
และเมื่อผู้เรียนเกิดการเรียนรู้สามารถสังเกตได้จากการทำชิ้นงาน
หรือการบันทึกการเรียนรู้ดี และการเลือกวิธีการฝึกทักษะภาษาเพื่อพัฒนาตนอันนำไปสู่
การเป็นผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น
ในการทำชิ้นงาน
หรือการบันทึกการเรียนรู้ (Leaning Log) เป็นการบันทึกการเรียนรู้ที่ได้เรียน
หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจนเกิดองค์เรียนรู้ใหม่และสรุปลงไป
ซึ่งเป็นการทบทวนความรู้ และเป็นเครื่องมือประเมินตนเองได้เป็นอย่างดี
โดยการบันทึกสรุปการเรียนรู้ที่ดีนั้น
ผู้เรียนจะต้องมองเห็นภาพรวมและจับประเด็นของสิ่งที่ได้เรียนรู้ให้ได้เสียก่อน
โดยเราอาจจะทบทวนจากสิ่งที่เราได้จดบันทึกหรือการฟังจากการเรียนรู้ครั้งนั้น
เมื่อจับประเด็นได้แล้วจึงนำเนื้อหาที่เราได้บันทึกไว้มาวิเคราะห์จากความสัมพันธ์ของกันและกัน
ความเชื่อมโยงของข้อมูล หรือประเด็นของความรู้
จากนั้นจึงแยะแยะว่าสิ่งไหนในข้อมูลนั้นเป็นประเด็นหลัก
และประเด็นรองตามลำดับความสำคัญ โดยการบันทึกนั้นอาจจะนำ Mind Map หรือแผนผังมโนทัศน์เข้ามาช่วยเพื่อให้มองเห็นภาพ
และเข้าใจในเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งผลงานที่ได้จะเป็นตัวสะท้อนให้เห็นศักยภาพ
และการเกิดการเรียนรู้ของผู้เรียนว่ามีมากน้อยเพียงใด
การเลือกวิธีการฝึกทักษะทางด้านภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาตนนั้น
ในปัจจุบันมีแนวทาง วิธีการและแหล่งความรู้ที่หลากหลายให้ผู้เรียนตามความเหมาะสมกับศักยภาพของตนเอง
โดยสิ่งแรกในการฝึกทักษะภาษาคือ
จะต้องรู้และยอมรับสภาพความรู้ของตนเองว่ามีพื้นความรู้ทางด้านตนเองว่ามีพื้นความรู้ด้านภาษามากน้อยแค่ไหน
ทั้งในด้านทักษะภาษาและเนื้อหาว่าตนมีความบกพร่องทางด้านทักษะไหน จากนั้นจึงต้องวางแผนที่จะพัฒนาตนในการฝึกซึ่งต้องวางเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน
และจัดทำแหล่งการฝึกโดยถ้าผู้เรียนต้องการที่จะฝึกทักษะทางด้านการฟัง
อาจจะฟังโดยการฟังเพลงภาษาอังกฤษเยอะๆ หรือฟังรายการวิทยุ
ในขณะฟังก็พยายามทำความเข้าใจไปพร้อมกัน ถ้าต้องการฝึกทักษะการพูดอาจจะเริ่มโดยการดูหนัง
หรือ ซีรีย์และพูดตามตัวละคร พูดกับ Soft ware พูดกับเพื่อนด้วยกัน หรือเข้าหาเจ้าของภาษา
ถ้าต้องการฝึกการอ่าน ถ้าเริ่มจากการอ่านสิ่งที่เราชอบหรือสนใจก่อน เช่น อ่านนิยาย
อ่านนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ ถ้าต้องการฝึกการเขียนสามารถทำได้โดยอาจจะเริ่มเขียนในสิ่งเล็กน้อยๆก่อน
เช่น บันทึกชีวิตประจำวัน
สรุปสิ่งที่ได้เรียนโดยสามารถค้นหาวิธีการฝึกให้เหมาะสมกับตัวผู้ฝึกเอง
และเมื่อค้นหาวิธีการฝึกทักษะให้ตนเองได้แล้วลงมือปฏิบัติให้ต่อเนื่อง
เพื่อที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้
จากการกล่าวมาข้างต้นทั้งในเรื่องของการมีบันทึกสรุปองค์ความรู้ที่ดี
และการฝึกทักษะเพื่อพัฒนาตน
จะเห็นได้ว่าสามารถทำให้ผู้เรียนมีพัฒนาการทางด้านทักษะและเกิดการเรียนรู้ที่ดีขึ้น
และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรมการเรียนรู้ทักษะทางด้านภาษาอังกฤษนั้นเป็น
lift time learning หรือเป็นการเรียนรู้ทางชีวิต
ไม่มีทางลัด ไม่มีทางเร็ว แต่มีทางเริ่มโดยเริ่มหากตัวผู้เรียนเองซะก่อน
เพราะมีความรู้เพิ่มมาใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด ดังนั้นผู้เรียนจึงต้องหมั่นศึกษาค้นคว้าเรียนรู้ด้วยตนเองสม่ำเสมอ
และมีการฝึกอย่างต่อเนื่อง ผู้เรียนต้องชี้นำตนเอง ไม่มีใครช่วยได้
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเรียนภาษาได้หากผู้นั้นไร้ซึ่งความเพียรพยายามที่จะพัฒนาตน
และรู้จักต่อยอดในการเรียนรู้ทักษะทางด้านภาษา
เพื่อที่ผู้เรียนจะประสบความสำเร็จในการที่ตนจะฝึกภาษา
สู้การนำไปใช้ได้จริงในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น