วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Adverb Clause (Adverb of time)


Adverb Clause (Adverb of time)

            ในภาษาอังกฤษนั้นประโยคแต่ละประโยคจะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของประโยค ทั้งประโยคใจความเดียว ประโยคใจความรวม และประโยคใจความซ้อน ซึ่งประโยคในประเภทนี้จะประกอบไปด้วยอนุประโยค หรือ Clauses ที่หมายถึงกลุ่มคำที่ประกอบไปด้วยประธานและกริยา ซึ่งเกิดขึ้นตามลำพังไม่ได้ และจะไม่สื่อความหมายที่สมบูรณ์ โดยในแต่ละ clause นั้นจะประกอบไปด้วยอนุประโยค 2 แบบ ได้แก่ Independent clause เป็นอนุประโยคที่อิสระ มีความหมายและความสมบูรณ์ในตัวมันเองซึ่งนั่นก็คือเป็นอนุประโยคหลัก หรือ Main clause นั่นเองและ Dependent clause เป็นอนุประโยคที่ไม่อิสระ ไม่มีความหมายและความสมบูรณ์ในตัวมันเอง มักจะนำหน้าด้วยคำเชื่อมหรือ Conjunction ที่เรียกว่า Subordinating Conjunction  ซึ่งClauses แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ Noun Clause หรือ นามานุประโยค เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่เหมือนกับคำนามในประโยค Adjective Clause คุณานุประโยค เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่เหมือนกับคำคุณศัพท์ นั่นคือขยายนามหรือสรรพนามในประโยคนั่นเอง และ Adverb Clause วิเศษณานุประโยค เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่เหมือนกับคำกริยาวิเศษณ์ในประโยค นั่นก็คือ ใช้ขยายกริยา ขยายคุณศัพท์ และขยายกริยาวิเศษณ์ด้วยกันเอง ซึ่งในครั้งนี้จะเรียนรู้เรื่อง Adverb Clause แต่เป็นประเภท Adverb Clause of time


            ก่อนที่จะเรียนรู้เรื่อง Adverb Clause of time ว่าเป็นอย่างไร จะต้องเข้าใจตัวใหญ่ของมันก่อนนั่นคือ Adverb Clause นั่นเองซึ่งอย่างที่กล่าวข้างต้นไปแล้วว่าเป็น clause ที่สามารถทำหน้าที่ได้เหมือน Adverb ทั่วไปคือ ใช้ขยายกริยา ขยายคุณศัพท์ และขยายกริยาวิเศษณ์ในอนุประโยคหลักหรือ Main clause ประเภทของ adverb clause แบ่งเป็น 10 ประเภท ได้แก่ Adverb Clause of Time เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่แสดงเวลา Adverb Clause of Place เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่แสดงสถานที่ Adverb Clause of Manner เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่แสดงอาการ Adverb Clause of Purpose เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่แสดงวัตถุประสงค์ Adverb Clause of Reason/Cause เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่แสดงเหตุผล/สาเหตุ Adverb Clause of Result ใช้แสดงผล Adverb Clause of Condition เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่แสดงเงื่อนไข Adverb Clause of Concession/Contrast เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่แสดงใจความที่ขัดแย้งกัน Adverb Clause of Comparison เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่แสดงการเปรียบเทียบ/เปรียบเหมือนว่า “เท่ากัน มากกว่า หรือน้อยกว่ากัน” ซึ่งในครั้งนี้จะกล่าวถึง Adverb Clause of Time ที่เป็นอนุประโยคที่ใช้ทำหน้าที่แสดงเวลา ซึ่งมีหลักการใช้ ตัวอย่าง และการลดรูปดังต่อไปนี้
            Adverb Clause of Time  เป็นอนุประโยคที่ใช้ขยาย main clause ว่าเหตุการณ์หรือการกระทำนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เหตุการณ์นั้นเกิดก่อนหรือหลังเหตุการณ์ใน Adverb Clause of Time ซึ่งตำแหน่งในการวางสามารถจะวางก่อนหรือหลัง main clause ก็ได้ แต่ถ้าหากวางหน้าให้ใส่ comma คั่นกลางระหว่างประโยคด้วย ในส่วนของคำนำหน้าหรือคำเชื่อมที่เรียกว่า Subordinating Conjunction ในอนุประโยคชนิดนี้ ซึ่งจะประกอบไปด้วยคำนำหน้า as/while คือ ขณะที่ ใช้บอกว่าเหตุการณ์ทั้ง clause เกิดขึ้นในเวลาพร้อมๆกัน และใช้กับ Adverb Clause หากเป็นกรณีที่เหตุการณ์หนึ่งดำเนินอยู่และมีอีกเหตุการณ์หนึ่งมาขัดจังหวะ ซึ่งสามารถสังเกตได้ว่ามักจะใช้ Past Continuous Tense เช่น While he was studying last night, the telephone rang. คำนำหน้า as soon as คือ ทันทีที่ ใช้กับเหตุการณ์หนึ่งที่เสร็จสิ้นแล้ว และมีอีกเหตุการณ์ตามมาใกล้เคียง เช่น I will call you, as soon as I finish. คำนำหน้า since คือ ตั้งแต่ ใช้บอกเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อใด เช่น Since she left school, Susan has never seen Peter. คำนำหน้า until/till คือ จนกระทั่ง ใช้บอกว่าเหตุการณ์นั้นจบลงเมื่อใด เช่น I should work until I have finished. คำนำหน้า when คือ เมื่อ เช่น When I finish, I will call you. คำนำหน้า whenever คือ เมื่อใดก็ตามที่ ใช้ในความหมายที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นซ้ำๆ หรือเป็นนิสัย เช่น Whenever she watches sad movies, she cries. คำนำหน้า before คือก่อนที่ ใช้บอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ใน Adverb Clause of Time เช่น Bill had painted the picture before he entered the university. และคำนำหน้า after หลังจากที่ ใช้บอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ใน Adverb Clause of Time เช่น After I finish, I will take a long vacation.
            ในการลดรูป Adverb Clause of Time สามารถนำมาลดรูปเป็น v. + ing หรือ v. 3 ได้ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากคำนำหน้าหรือคำเชื่อมประโยค when, whenever, while, before, after, as soon as, by the time, since, until เป็นต้น หลักในการลดรูปจาก Adverb clause เป็น Adverbial phrase นั้นสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ อันดับแรกประธานในทั้ง 2 อนุประโยค ซึ่งหมายถึง ประธานใน Main clause และ Subordinate clause จะต้องเป็นประธานตัวเดียวกัน ถ้าเป็นประธานคนละตัวประโยคดังกล่าวเราไม่สามารถลดรูปได้ ต่อมาเมื่อเราทราบว่าประธานใน 2 ประโยคเป็นประธานตัวเดียวกันแล้ว ให้ตัดประธานที่อยู่ในประโยคที่มีคำนำหน้าหรือคำเชื่อมออก หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนกริยา โดยถ้าเป็นกริยาแท้ตัวเดียว ให้เปลี่ยนเป็น v. + ing ได้เลย แต่ถ้ากริยานั้นเป็น passive voice ให้เปลี่ยน v. to be เป็น being + v.3 เช่น The seed is sown before it is watered. เมื่อลดรูปแล้วจะได้ The seed is sown before being watered. แต่ถ้ากริยานั้นเป็น Past Continuous Tense ให้ตัด v. to be ออก เช่น While he was crossing the street, he met his old friend. เมื่อลดรูปแล้วจะได้ While crossing the street, he met his old friend.  แต่ถ้ากริยานั้นเป็น Present Perfect Tense หรือ Past Perfect Tense ให้เปลี่ยน has/have เป็น having + v.3 เช่น After he had finished high school, he continued his studies for bachelor degree. เมื่อลดรูปแล้วจะได้ After  having finished high school, he continued his studies for bachelor degree. นอกจากนี้ในการลดรูปนั้นบางครั้งเราอาจละทั้งประธาน (Subject) และคำเชื่อม (Connector) หรืออาจจะละแค่ประธานก็ได้  
            จะเห็นได้ว่า Adverb Clause of Time เป็นหนึ่งในประเภทของ Adverb Clause ที่ทำหน้าที่ขยายกริยา ขยายคุณศัพท์ และขยายกริยาวิเศษณ์ในอนุประโยคหลักหรือ Main clause แต่ใน Adverb Clause of Time นั้นเป็นอนุประโยคที่ทำหน้าที่บอกว่าเหตุการณ์หรือการกระทำนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เกิดก่อนหรือหลัง ซึ่งวางก่อนหรือหลัง main clause ก็ได้ แต่ถ้าหากวางหน้าให้ใส่ comma คั่นกลางระหว่างประโยค ในอนุประโยคนี้ส่วนของคำนำหน้าที่ประกอบไปด้วย when, whenever, while, before, after, as soon as, by the time, since, until เพื่อเชื่อมระหว่าง main clause และ Dependent clause แต่สิ่งที่ต้องสิ่งที่ต้องระวังเกี่ยวกับ  adverb clause ประเภทนี้คือ tense และ การลดรูปซึ่งจะต้องสังเกตให้ดี โดยถ้าเป็น v. แท้ตัวเดียว ให้เปลี่ยนเป็น v. + ing ได้เลย แต่ถ้า v. เป็น passive voice ให้เปลี่ยน v. to be เป็น being + v.3 แต่ถ้า v. นั้นเป็น Past Continuous Tense ให้ตัด v. to be ออก และถ้า v. นั้นเป็น Present Perfect Tense หรือ Past Perfect Tense ให้เปลี่ยน has/have เป็น having + v.3 ซึ่งในการลดรูปนั้นก็มีเพื่อทำให้ประโยคนั้นมีความกระชับ ไม่ยืดเยื้อ และเป็นประโยคความซ้อนที่สามารถใช้สื่อสารได้โดยใช้แค่ประโยคเดียว












ที่มา :





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น