วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บทที่ 4 จากมัลดีฟไปยังจีน

บทที่ 4
จากมัลดีฟไปยังจีน

            ลุงของผมไม่ได้เปิดประตูทันทีในวันต่อมา ดังนั้นผมจึงรอที่ถนนและได้คิดเกี่ยวกับเรื่องสุลต่านแห่งเมืองเดลี ภายในหัวของผม ผมนึกถึงพลังอำนาจและสีหน้าโกรธของท่านเมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับเรือทั้งสามลำนั้น


            ต่อจากนั้นพอดี ลุงของผมได้เปิดประตูมา อาห์ สวัสดิ์ดีอาห์เหม็ดหลานรัก มา เข้ามานั่งด้านในก่อน เขาพูด จากนั้นเขาก็เริ่มเล่าเรื่องอีกครั้งหนึ่ง
            แน่นอน ลุงไม่สามารถกลับไปหาท่านสุลต่านได้ นั่นมันอันตราย ลุงรู้ ลุงต้องการออกจากอินเดียทันที จากนั้นลุงก็นึกคำของท่าน เบอฮาน-อัล-ดิน เกี่ยวกับการไปเยือนยังเมืองจีนได้ประมาณว่า ลุงจะไปที่นั่นโดยลำพัง ไม่มีการช่วยเหลือจากท่านสุลต่าน
            ตอนแรกลุงก็แล่นเรือไปยังมัลดีฟ มันช่างเป็นเกาะที่งดงามอย่างแท้จริง และมีผู้คนอาศัยประมาณสองพันคน ที่มัลดีฟนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของหอยที่สวยงาม คนที่นี่ไม่มีเงินเหรียญทอง สำหรับพวกเขาให้เปลือกหอยเป็นเงิน
            ลุงได้พักที่เกาะแห่งลูกผู้ชาย ลุงเพียงต้องการที่จะไปเยือนที่นั่น แต่ผู้ปกครองของที่นั่นต้องการผู้พิพากษาคนใหม่ เมื่อลุงมาถึง พวกเขานำของขวัญด้วยทองและไข่มุกมาที่บ้าน มันไม่ง่ายเลยสำหรับลุงเลยที่จะออกจากเกาะนี้หลังจากนั้น
            ดังนั้นลุงจึงได้มีงานใหม่ทำ ลุงได้เป็นผู้พิพากษาบนเกาะนี้ อย่างแรกเลย ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีหมด ลุงมีภรรยาจากครอบครัวบุคคลสำคัญของที่นั่น และทำงานของลุงตามปกติ แต่ไม่นานนักลุงก็เริมมีศัตรู ลุงเป็นเศรษฐีและผู้คนไม่ชอบ ดังนั้นพวกเขาจึงใส่ร้ายลุง
            หลังจากนั้นเก้าเดือน มันเป็นช่วงเวลาที่แล่นเรือออกไป ภรรยาของลุงไม่ได้เป็นนักเดินทางทะเลที่ดีเท่าไหร่ ดังนั้นลุงจึงจากเธอมาที่หลังเกาะ บ่อยครั้งที่หลานต้องการออกจากสถานที่นั่นอย่างรวดเร็วนะอาห์เหม็ด ก่อนที่จะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น!
            ลุงได้ออกจากเมืองจีน แต่ตอนแรกลุงล่องเรือไปยังเกาะแห่งเซเรนดิบ เมื่อเราอยู่ถึงเก้าวันในการออกจากที่นั่น พวกเราก็สามารถเห็นภูเขาอันมีชื่อเสียง นั่นคือ ภูเขาอดัมส์ ที่อยู่ตรงข้ามกับทะเล ผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลเข้ามาในแสวงบุญที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เพราะที่ภูเขาลูกนี้หลานสามารถเห็นรอยเท้าของอดัมส์ มนุษย์คนแรกของโลกไงล่ะ
            ลุงได้พักกับท่านสุลต่านแห่งเซเรนดิบเป็นเวลาสามวัน ท่านชอบฟังเรื่องราวการเดินทางของลุงมาก และท่านมอบไข่มุกและทับทิมเม็ดใหญ่ให้แก่ลุง เมืองเซเรนดิบแห่งนี้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับทับทิมดูสิหลาน หญิงสาวที่นี่จะสวมมันเหนือแขนและขาพวกเธอ
            ท่านสุลต่านได้เล่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับภูเขาอดัมส์ให้ลุงฟัง ที่นี่มีสองทางที่ขึ้นไปยังรอยเท้าของอดัมส์ มีทั้งหนทางที่ง่ายและหนทางที่อัตราย ท่านจะได้แสวงบุญอย่างแท้จริงเพียงแค่ท่านเลือกไปทางที่อันตราย ซึ่งแน่นอน ลุงไปทางนั้น! มันเป็นการเดินทางยาวนานเหนือระหว่างกองหินก้อนใหญ่และป่าทึบ แต่สุดท้ายแล้วพวกเรามาก็ถึงที่รอยเท้าของอดัมส์จนได้ มันเป็นสถานที่น่ามหัศจรรย์ทีเดียว เหมือนหลานได้อยู่บนท้องฟ้า และสามารถเห็นสิ่งที่ไกลออกไปได้ด้วย
            หลังจากที่ลุงได้ออกจากเมืองเซเรนดิบด้วยเรือที่ไปอินเดีย ลุงเป็นคนที่มีความสุขด้วยไข่มุกและอัญมณีทับทิมที่อัดแน่นอยู่เต็มกระเป๋าของลุง แต่ไม่นานนักก็มีสิ่งที่ผิดพลาดไป วันหนึ่งลมได้โหมกระหน่ำอย่างฉับพลัน จนเรือของพวกเราไปชนกับหินเข้า ลุงกลัวมากเพราะลุงว่ายน้ำไม่เป็น เหล่ากะลาสีเรือได้พานักท่องเที่ยวหญิงออกไปก่อน แต่ลุงอยู่ที่นั่นอย่างโดดเดี่ยวบนเรือลำนั้น ลุงอฐิษฐานทั้งคืน
            ในวันรุ่งขึ้น มีใครบางคนพบลุงและพาลุงกลับมายังชายฝั่งเซเรนดิบ ลุงล่องเรือออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เหล่าโจรสลัดได้บุกเข้ามาที่เรืองของเรา พวกมันเอาไข่มุก เม็ดทับทิม และเสื้อผ้าของลุงไปจนหมด จากนั้นก็ปล่อยลุงลงบนเกาะโดยเหลือแค่เพียงกางเกงเท่านั้น! ‘ไม่เอาอีกแล้ว!’ ลุงคิด
            ลุงได้ล่องเรือกลับไปมัลดีฟอีกครั้ง และขึ้นเรือไปจีนที่นั่น
            ในการเดินทาง ลุงได้หยุดแวะหลายสถานที่และได้ไปเยือนสองเกาะ คือเกาะสุมาตราและเกาะเกาะจาวา จาวาเป็นเกาะที่น่าสนใจ ทุกคนที่นั้นล้วนมีช้างและผู้คนแวะจับจ่ายกับพวกเขาเหล่านั้น
            หลังจากจาวา พวกเราได้แล่นเรือเป็นเวลาสี่สิบวันด้วยลมพัดหนุนเรือพวกเราและได้มาถึงเมืองจีน ที่นั่นมีมากมายเกี่ยวกับจีนที่จะเล่าให้หลานฟังนะอาห์เหม็ด คนจีนสามารถสร้างสิ่งที่แตกต่างได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียวล่ะ จากภาพงามวิจิตรสู่กล่องที่งดงาม
            จีนเป็นประเทศที่ดีเยี่ยมสำหรับเหล่านักเดินทาง และลุงได้เดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งได้อย่างง่ายดาย สัตว์ของเขาบางอย่างก็มีแตกต่างจากฝูงสัตว์ของพวกเราเช่นกัน และนั่นคือสิ่งที่ลุงสนใจล่ะ พวกเขามีแมวที่มีตาสีฟ้าและสีเขียว รู้หรือเปล่าล่ะ และเมื่อลุงได้แวะหยุดที่เมืองหนึ่งทีถูกเรียกว่า เมืองฝูโจว มีบางสิ่งที่น่าสนใจได้เกิดขึ้นที่นี่ด้วยล่ะ
            ผู้พิพากษามาถึงที่เมืองนี้และสหายของลุงได้พาลุงไปพบกับเขา พบเราพูด สวัสดิ์ดี และจากนั้นชายคนนั้นก็ได้จ้องมาที่ลุงและลุงก็ได้จ้องไปที่เขา
            ข้ารู้จักท่าน!’ ลุงร้องออกมา ท่านคือ อัลบุชรีและท่านมาจากเซวตา ไม่ไกลจากบ้านข้าแทนเจียร์ใช่ไหม!’
            ‘ใช่แล้ว!’ เขายิ้ม
            พวกเราหัวเราะและได้พูดคุยกันเป็นชั่วโมง ท่านจะได้พบผู้คนในสถานที่แปลกใหม่ อาห์เหม็ด! คำของนักบุญเบอฮาน อัล-ดิน เกี่ยวกับการพบเพื่อนเก่าบนการเดินทางนั้นเป็นจริงอีกครั้ง!
            หลังจากเดือนที่แล้วที่จีน พวกเราเตรียมพร้อมที่จะเริ่มเดินทางอันยาวนานเพื่อกลับบ้าน ดังนั้นลุงจึงเดินทางโดยเรือ    
            แล้วลุงกลับทันทีเลยหรือครับ ผมถาม
            เปล่า เขาพูด ลุงได้หยุดแวะเมืองที่ได้เดินทางมาก่อนหน้านี้ นั่นคือเมืองดามัสกัส ไคโร และอีกหลายเมือง แต่เมื่อกลับไปแล้วเมืองเหล่านั้นกลายเป็นเมืองที่มืดมนและต่างไปจากเดิม เขาพูดอย่างช้าๆ ลุงสามารถเล่าเกี่ยวเรื่องนั้นให้หลานฟังทั้งหมดได้ในวันพรุ่งนี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น