บทที่
4
จากมัลดีฟไปยังจีน
ลุงของผมไม่ได้เปิดประตูทันทีในวันต่อมา
ดังนั้นผมจึงรอที่ถนนและได้คิดเกี่ยวกับเรื่องสุลต่านแห่งเมืองเดลี ภายในหัวของผม
ผมนึกถึงพลังอำนาจและสีหน้าโกรธของท่านเมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับเรือทั้งสามลำนั้น
ต่อจากนั้นพอดี
ลุงของผมได้เปิดประตูมา ‘อาห์ สวัสดิ์ดีอาห์เหม็ดหลานรัก มา
เข้ามานั่งด้านในก่อน’ เขาพูด
จากนั้นเขาก็เริ่มเล่าเรื่องอีกครั้งหนึ่ง
แน่นอน
ลุงไม่สามารถกลับไปหาท่านสุลต่านได้ นั่นมันอันตราย ลุงรู้
ลุงต้องการออกจากอินเดียทันที จากนั้นลุงก็นึกคำของท่าน เบอฮาน-อัล-ดิน
เกี่ยวกับการไปเยือนยังเมืองจีนได้ประมาณว่า ลุงจะไปที่นั่นโดยลำพัง
ไม่มีการช่วยเหลือจากท่านสุลต่าน
ตอนแรกลุงก็แล่นเรือไปยังมัลดีฟ มันช่างเป็นเกาะที่งดงามอย่างแท้จริง
และมีผู้คนอาศัยประมาณสองพันคน ที่มัลดีฟนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของหอยที่สวยงาม
คนที่นี่ไม่มีเงินเหรียญทอง สำหรับพวกเขาให้เปลือกหอยเป็นเงิน
ลุงได้พักที่เกาะแห่งลูกผู้ชาย
ลุงเพียงต้องการที่จะไปเยือนที่นั่น
แต่ผู้ปกครองของที่นั่นต้องการผู้พิพากษาคนใหม่ เมื่อลุงมาถึง พวกเขานำของขวัญด้วยทองและไข่มุกมาที่บ้าน
มันไม่ง่ายเลยสำหรับลุงเลยที่จะออกจากเกาะนี้หลังจากนั้น
ดังนั้นลุงจึงได้มีงานใหม่ทำ
ลุงได้เป็นผู้พิพากษาบนเกาะนี้ อย่างแรกเลย ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีหมด
ลุงมีภรรยาจากครอบครัวบุคคลสำคัญของที่นั่น และทำงานของลุงตามปกติ
แต่ไม่นานนักลุงก็เริมมีศัตรู ลุงเป็นเศรษฐีและผู้คนไม่ชอบ
ดังนั้นพวกเขาจึงใส่ร้ายลุง
หลังจากนั้นเก้าเดือน
มันเป็นช่วงเวลาที่แล่นเรือออกไป ภรรยาของลุงไม่ได้เป็นนักเดินทางทะเลที่ดีเท่าไหร่
ดังนั้นลุงจึงจากเธอมาที่หลังเกาะ บ่อยครั้งที่หลานต้องการออกจากสถานที่นั่นอย่างรวดเร็วนะอาห์เหม็ด
ก่อนที่จะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น!
ลุงได้ออกจากเมืองจีน
แต่ตอนแรกลุงล่องเรือไปยังเกาะแห่งเซเรนดิบ
เมื่อเราอยู่ถึงเก้าวันในการออกจากที่นั่น พวกเราก็สามารถเห็นภูเขาอันมีชื่อเสียง
นั่นคือ ภูเขาอดัมส์ ที่อยู่ตรงข้ามกับทะเล ผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลเข้ามาในแสวงบุญที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
เพราะที่ภูเขาลูกนี้หลานสามารถเห็นรอยเท้าของอดัมส์ มนุษย์คนแรกของโลกไงล่ะ
ลุงได้พักกับท่านสุลต่านแห่งเซเรนดิบเป็นเวลาสามวัน
ท่านชอบฟังเรื่องราวการเดินทางของลุงมาก และท่านมอบไข่มุกและทับทิมเม็ดใหญ่ให้แก่ลุง
เมืองเซเรนดิบแห่งนี้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับทับทิมดูสิหลาน หญิงสาวที่นี่จะสวมมันเหนือแขนและขาพวกเธอ
ท่านสุลต่านได้เล่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับภูเขาอดัมส์ให้ลุงฟัง
ที่นี่มีสองทางที่ขึ้นไปยังรอยเท้าของอดัมส์ มีทั้งหนทางที่ง่ายและหนทางที่อัตราย
ท่านจะได้แสวงบุญอย่างแท้จริงเพียงแค่ท่านเลือกไปทางที่อันตราย ซึ่งแน่นอน
ลุงไปทางนั้น! มันเป็นการเดินทางยาวนานเหนือระหว่างกองหินก้อนใหญ่และป่าทึบ
แต่สุดท้ายแล้วพวกเรามาก็ถึงที่รอยเท้าของอดัมส์จนได้ มันเป็นสถานที่น่ามหัศจรรย์ทีเดียว
เหมือนหลานได้อยู่บนท้องฟ้า และสามารถเห็นสิ่งที่ไกลออกไปได้ด้วย
หลังจากที่ลุงได้ออกจากเมืองเซเรนดิบด้วยเรือที่ไปอินเดีย
ลุงเป็นคนที่มีความสุขด้วยไข่มุกและอัญมณีทับทิมที่อัดแน่นอยู่เต็มกระเป๋าของลุง
แต่ไม่นานนักก็มีสิ่งที่ผิดพลาดไป วันหนึ่งลมได้โหมกระหน่ำอย่างฉับพลัน
จนเรือของพวกเราไปชนกับหินเข้า ลุงกลัวมากเพราะลุงว่ายน้ำไม่เป็น
เหล่ากะลาสีเรือได้พานักท่องเที่ยวหญิงออกไปก่อน แต่ลุงอยู่ที่นั่นอย่างโดดเดี่ยวบนเรือลำนั้น
ลุงอฐิษฐานทั้งคืน
ในวันรุ่งขึ้น
มีใครบางคนพบลุงและพาลุงกลับมายังชายฝั่งเซเรนดิบ ลุงล่องเรือออกมาอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้เหล่าโจรสลัดได้บุกเข้ามาที่เรืองของเรา พวกมันเอาไข่มุก เม็ดทับทิม
และเสื้อผ้าของลุงไปจนหมด
จากนั้นก็ปล่อยลุงลงบนเกาะโดยเหลือแค่เพียงกางเกงเท่านั้น! ‘ไม่เอาอีกแล้ว!’
ลุงคิด
ลุงได้ล่องเรือกลับไปมัลดีฟอีกครั้ง
และขึ้นเรือไปจีนที่นั่น
ในการเดินทาง ลุงได้หยุดแวะหลายสถานที่และได้ไปเยือนสองเกาะ
คือเกาะสุมาตราและเกาะเกาะจาวา จาวาเป็นเกาะที่น่าสนใจ
ทุกคนที่นั้นล้วนมีช้างและผู้คนแวะจับจ่ายกับพวกเขาเหล่านั้น
หลังจากจาวา
พวกเราได้แล่นเรือเป็นเวลาสี่สิบวันด้วยลมพัดหนุนเรือพวกเราและได้มาถึงเมืองจีน
ที่นั่นมีมากมายเกี่ยวกับจีนที่จะเล่าให้หลานฟังนะอาห์เหม็ด
คนจีนสามารถสร้างสิ่งที่แตกต่างได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียวล่ะ
จากภาพงามวิจิตรสู่กล่องที่งดงาม
จีนเป็นประเทศที่ดีเยี่ยมสำหรับเหล่านักเดินทาง
และลุงได้เดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งได้อย่างง่ายดาย
สัตว์ของเขาบางอย่างก็มีแตกต่างจากฝูงสัตว์ของพวกเราเช่นกัน
และนั่นคือสิ่งที่ลุงสนใจล่ะ พวกเขามีแมวที่มีตาสีฟ้าและสีเขียว รู้หรือเปล่าล่ะ
และเมื่อลุงได้แวะหยุดที่เมืองหนึ่งทีถูกเรียกว่า เมืองฝูโจว
มีบางสิ่งที่น่าสนใจได้เกิดขึ้นที่นี่ด้วยล่ะ
ผู้พิพากษามาถึงที่เมืองนี้และสหายของลุงได้พาลุงไปพบกับเขา
พบเราพูด ‘สวัสดิ์ดี’
และจากนั้นชายคนนั้นก็ได้จ้องมาที่ลุงและลุงก็ได้จ้องไปที่เขา
‘ข้ารู้จักท่าน!’
ลุงร้องออกมา ‘ท่านคือ อัลบุชรีและท่านมาจากเซวตา
ไม่ไกลจากบ้านข้าแทนเจียร์ใช่ไหม!’
‘ใช่แล้ว!’ เขายิ้ม
พวกเราหัวเราะและได้พูดคุยกันเป็นชั่วโมง
ท่านจะได้พบผู้คนในสถานที่แปลกใหม่ อาห์เหม็ด! คำของนักบุญเบอฮาน
อัล-ดิน เกี่ยวกับการพบเพื่อนเก่าบนการเดินทางนั้นเป็นจริงอีกครั้ง!
หลังจากเดือนที่แล้วที่จีน
พวกเราเตรียมพร้อมที่จะเริ่มเดินทางอันยาวนานเพื่อกลับบ้าน ดังนั้นลุงจึงเดินทางโดยเรือ
‘แล้วลุงกลับทันทีเลยหรือครับ’ ผมถาม
‘เปล่า’ เขาพูด ‘ลุงได้หยุดแวะเมืองที่ได้เดินทางมาก่อนหน้านี้
นั่นคือเมืองดามัสกัส ไคโร และอีกหลายเมือง
แต่เมื่อกลับไปแล้วเมืองเหล่านั้นกลายเป็นเมืองที่มืดมนและต่างไปจากเดิม’ เขาพูดอย่างช้าๆ ‘ลุงสามารถเล่าเกี่ยวเรื่องนั้นให้หลานฟังทั้งหมดได้ในวันพรุ่งนี้’
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น