วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บทที่ 1 เริ่มต้นการเดินทาง

บทที่ 1
เริ่มต้นการเดินทาง

            ครั้งนั้นลุงของผมนามว่า อิบนู บัตตูตาได้นั่งอยู่ที่ริมหน้าต่างในบ้านของเขาที่อยู่ในเมืองแทนเจียร์ มันเป็นช่วงที่ร้อนจัดของวันนั้นและดวงตาของเขาเปิดแค่ครึ่งหนึ่ง แล้วผมก็ได้เข้าไปในห้องนั้น


            คุณลุงครับ ผมเอ่ยด้วยเสียงเบา แล้วทันใดนั้นเขาก็มองขึ้นมา
            อ๋อ อาห์เหม็ด หลานนั่นเอง ลุงยิ้ม
            ใช่ครับลุง ผมตอบ วันนี้ลุงช่วยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเดินทางของลุงให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ได้โปรดเถอะครับ ผมอยากท่องเที่ยวเหมือนกัน เมื่อผมมีอายุมากว่านี้ ผมพูด
            แน่ในหรือหลาน ลุงตอบ จากนั้นเขาก็องผมอย่างระแวดระวัง ตอนนี้หลานอายุเท่าไหร่ล่ะ แม้ว่าเขาจะสามารถจำสิ่งที่ผ่านมาแล้วได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ดูแล้วน่าจะไม่ดีนัก
            ผมอายุสิบเอ็ดปีครับ ผมพูด
            อืม เป็นไปได้ว่าในสี่หรือห้าปีข้างหน้า หลานอาจจะสามารถเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวได้ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยรู้หรือเปล่า หลานสามารถเห็นเมืองและนครที่มหัศจรรย์มากมาย ได้พบปะกับผู้คนที่น่าสนใจ และได้ทำสิ่งที่น่าตื่นเต้น แต่มันก็เป็นช่วงเวลาอันเลวร้ายด้วยเช่นกัน หลานอาจจะเจ็บป่วย เจอสัตว์ใหญ่ที่หิวกระหายหรือเงินทองของหลายอาจจะหายไปหมด
            ไม่จริงน่าลุง!’ ผมพูด ตาทั้งสองของผมเบิกกว้าง
            จริงสิ อาห์เหม็ด เขาตอบ แต้ถ้าหลานได้ฟังเรื่องราวของลุงแล้ว บางทีหลานอาจจะสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่กลับมาได้ เขาหัวเราะ เอาล่ะ ตอนนี้เราจะเริ่มจากตรงไหนดี
            ผมนั่งลงพร้อมที่จะฟังเขา ทุกครั้งที่ลุงของผมเล่าเรื่องราวของเขา มันเป็นเรื่องราวที่แตกต่าง แปลกใหม่ และน่าสนใจอยู่เสมอ
            ลุงเกิดที่นี่ในเมืองแทนเจียร์ เขาเริ่ม แต่แน่นอนว่าหลานคงรู้เรื่องนี้ เขายิ้ม พ่อและปู่ของลุง ก่อนหน้านั้นได้เป็นผู้พิพากษา ดังนั้นลุงจึงร่ำเรียนวิชาเพื่อที่เป็นผู้พิพากษาเช่นเดียวกัน เมื่อหลานได้เป็นผู้พิพากษาแล้ว มันมาใช่เรื่องยากที่หลานจะเดินทาง หลานจะได้เป็นคนที่สำคัญเห็นไหม
            ‘ใช่ครับ ผมตอบ บางสักวันหนึ่ง ผมจะเป็นผู้พิพากษาให้ได้เหมือนกันครับ
            อาจเป็นไปได้ เขายิ้ม การเดินทางครั้งแรกของลุงคือ การเดินทางไปแสวงบุญที่เมืองมักกะห์ ลุงได้ขี่ลาและพูด ลาก่อน กับพ่อแม่ของลุงในเมืองแทนเจียร์เมื่อลุงอายุ 21 ปี แม่ของลุงร้องไห้ด้วย
            หลังจากนั้นซักวันหนึ่ง ในการเดินทาง ลุงมาที่เมืองแอลเจียร์ ที่นี่ลุงได้พบกับนักแสวงบุญและพวกลุงที่เมืองคอนสแตนทีน ซึ่งลุงได้พบกับผู้ครองเมืองที่ร่ำรวยของที่นั่น เขามองมาที่เสื้อโค้ตที่สกปรกและเก่าของลุง แล้วเขาก็ยิ้มและมอบเสื้อตัวใหม่ที่สวยงามให้กับลุงด้วย!’
            เขาให้ทำไมครับ ผมถาม
            คนดีจะช่วยผู้คนเมื่อเขาต้องการให้ช่วย หลังจากนั้นซักวันสองวัน ลุงได้ออกจากเมืองคอนสแตนทีนกับผู้แสวงบุญคนอื่นๆ พวกเราไม่เคยหยุดเดินทางเลย เพราะพวกเราหวาดกลัว คิดว่าอาจจะมีบางคนมาเอาเงินไปขณะที่พวกเราหลับอยู่ แต่ไม่นานนักลุงก็ล้มป่วย ลุงอยากจะนอนแล้วตายเสียตรงนั้นให้ได้ แต่เหล่าเพื่อนๆของลุง วางลุงบนหลังลาแก่ของลุง และตีมันจากด้านหลังเพื่อให้มันลงไปบนถนนอย่างรวดเร็ว
            และในตอนนั้นลุงเคยอยากกลับบ้านบ้างหรือเปล่าครับ
            แน่นอนสิ เขายิ้ม แต่ลุงก็เดินทางไปยังตูนิส นักเดินทางที่ดีจะไม่หยุดง่ายๆหรอก
            ลุงจากเมืองตูนิสมากับกองคาราวานของผู้แสวงบุญ พวกเขาถามลุงว่า “ท่านจะเป็นผู้พิพากษาประจำกองคาราวานของพวกเราได้หรือไม่” แน่นอนลุงตอบ “ตกลง” ผู้พิพากษาประจำกองคาราวานเชียวนะ มันเป็นงานที่ไม่เลวเลยสำหรับคนหนุ่มๆอย่างลุง เมื่อพวกเราเดินทางมาถึงเมืองอเล็กซานเดรีย ลุงตื่นเต้น ลุงอยากจะเห็นฟาโรสอันโด่งดังที่นั่น
            ผมก็รู้จักครับ ผมพูดอย่างรวดเร็ว เมื่อก่อนเป็นประภาคารที่ยิ่งใหญ่ ลุงได้ขึ้นไปด้านบนประภาคารหรือเปล่าครับ
            เปล่า เขาหัวเราะ ตอนนั้นฟาโรสได้เป็นซากปรักหักพังไปแล้วล่ะ ที่นั่นไม่มีอะไรให้เราดูมากนัก แต่ไม่ไกลจากเมืองอเล็กซานเดรีย ลุงได้พบกับนักบุญคนหนึ่งที่มีนามว่า เบอฮาน-อัล-ดิน เขาสามารถมองเห็นอนาคตได้ด้วยล่ะ
            และเขาได้บอกอะไรกับลุง รู้ไหม “ท่านจะได้แวะไปยังอินเดีย จีน และในการเดินทางของท่านนั้น ท่านจะได้พบกับเพื่อนเก่ามากมาย” ลุงมีความสุขกับเรื่องนี้มาก ลุงคิดว่า “ข้ากำลังจะไปในที่อันไกลโพ้น”
            แล้ว สุดท้ายแล้วลุงก็ได้ไปที่อินเดียและจีนหรือครับ
            รอดูก่อน อาห์เหม็ด รอยยิ้มถูกส่งมาจากลุงของผม ลุงมาถึงเมืองไคโรภายในเวลาแปดเดือนหลังจากที่ลุงจากบ้านมาครั้งแรก เมืองอะไรจะใหญ่โตขนาดนี้และเต็มไปด้วยด้วยผู้คน พวกเขาเร่งรีบไม่เคยหยุด ทั้งกลางวันและกลางคืนและใกล้เมืองไคโรนั้นจะมีพีระมิด ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างสำหรับผู้ปกครองอียีปต์เมื่อนานมาแล้ว
            และพวกนั้นก็กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้วใช่ไหมครับ ผมถาม
            ไม่ ไม่ใช่กับพีระมิดแน่นอน!’ เขายิ้ม ถัดไป ลุงก็ได้เดินทางขึ้นไปที่แม่น้ำไนล์ หลังจากนั้นพวกเราก็ได้เดินทางต่อด้วยอูฐ แม้ว่าทะเลทรายจะร้อนระอุ ที่นั่นเต็มไปด้วยไฮยีน่าที่หิวกระหาย และพวกเราจำเป็นจะต้องอยู่อย่างระมัดระวังในเวลากลางคืน
            แน่นอนครับ ผมร้องออกมาอย่างตื่นเต้น
            มีอยู่คืนหนึ่ง มีไฮยีน่าตัวใหญ่ตัวหนึ่งเข้ามาและคุ้ยทุกอย่างจากกระเป๋าของลุง เขาพูด แต่ในไม่ช้าเราก็ได้ออกจากทะเลทราย จากนั้นลุงก็ได้เดินทางไปยังเมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองเยรูซาเล็มและแวะตึกที่มีชื่อเสียงของที่นั่น ต่อจากนั้นลุงก็ไปที่ดามัสกัส เมืองอะไรจะสวยขนาดนั้น! แล้วลุงก็เดินทางไปที่อาระเบียและแวะที่เมืองเมดินา และจบลงด้วยการมาถึงเมืองมักกะห์
            ‘หลังจากเดินทางมาปีครึ่ง มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์นักที่ได้มาถึงเมืองแห่งการแสวงบุญ ลุงได้เรียนรู้จากนักบุญและอฐิษฐานที่นั่นเป็นเวลาสามสัปดาห์
            แล้วหลังจากนั้นลุงก็กลับบ้านใช่ไหมครับ ผมถาม
            เปล่า ทุกคืนลุงคิดถึงนักบุญเบอฮาน-อัล-ดินคนนั้น คิดถึงอินเดียและจีน ลุงจะเป็นนักเดินทางที่แท้จริงให้ได้ และลุงไม่ต้องการจะหยุดด้วย
            ดังนั้น ลุงจึงจากเมืองมักกะห์มากับผู้ปกครองกองคาราวานของเปอร์เซียเมื่อตอนที่ลุงเป็นเด็ก ลุงได้ฟังเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวกับเมืองมหัศจรรย์ที่ใกล้กับที่นั่น แต่ในการเดินทางของ ลุงได้เห็นบางอย่างที่ต่างออกไปมาก เมื่อปีก่อนพวกมองโกลได้มาที่เมืองนี้ พวกเขาได้เข่นฆ่าผู้คนไปมากมาย ลุงได้เห็นบ้านที่เป็นซากปรักหักพังจากที่นั่น
            ‘บางทีเมืองที่น่าสนใจที่สุดในการเดินทางครั้งนั้น น่าจะเป็นเมืองวาสิทซึ่งจะมีกลุ่มคนที่ไมมีเงินจำนวนมากอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ในช่วงเย็นพวกเขาจะอฐิษฐานและกินมื้อเย็นพร้อมกัน หลังจากนั้นพวกเขาจะนั่งใกล้กองไฟใหญ่และเล่าเรื่องกันทันใดนั้นมีหนึ่งในกลุ่มคนนั้นเดินเข้าไปในกองไฟ! แล้วพวกเขาก็กินลูกไฟเข้าไป และมีคนหนึ่งเขาจับหัวงูเข้าไปในปากของเขาและกินมันทั้งเป็น!’
            ‘แล้วลุงเห็นมันทั้งหมดหรือเปล่าครับ ผมร้อง
            แน่นอนสิ เขาหัวเราะ ลุงได้แวะไปยังหลากหลายเมืองที่น่าสนใจหลังจากนั้น แต่ลุงก็ไม่เคยเห็นคนที่กินลูกไฟและงูอีกเลย
            จากนั้นลุงได้ไปที่แบกแดด มันเป็นเมืองที่น่าอัศจรรย์นัก แต่ลงก็ล้มป่วยลงที่นั่น ดังนั้นไม่นานพวกเราก็กลับไปยังเมืองมักกะห์ ลุงได้เรียนรู้จากนักบุญและอฐิษฐานที่นั่นเป็นเวลาหนึ่งปีและลุงค่อยๆมีอาการที่ดีขึ้น
            แล้วลุงจะทำอะไรต่อไปครับ ผมถาม

            ลุงได้เดินทางโดยทะเลเป็นครั้งแรก มันเป็นการเดินทางที่แย่ที่สุดเลยล่ะหลาน เขาพูด หลานจะได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดในวันพรุ่งนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น